10 ผลงานนักเตะ พรีเมียร์ลีกสัปดาห์ล่าสุด รวมผลงานท็อปฟอร์มของทีมเมืองผู้ดี
10 ผลงานนักเตะ สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาของฤดูกาล 2019/20 มีนักเตะหลายคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ในขณะที่บางคนยังคงประครองฟอร์มการเล่นต่อไป กระนั้นก็มีผู้เล่นอีกหลายคนที่ฟอร์มหลุดจนต้องหลุดออกจากท็อปเทนนักเตะฟอร์มร้อนแรงประจำแมตช์ล่าสุด ดูอนิเมะออนไลน์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผลงานไม่ค่อยโดดเด่นมากนักในเกมที่แล้ว แถมยังโดนตำหนิเกี่ยวกับนิสัยเห็นแก่ตัวไม่ยอมส่งบอลให้เพื่อน โดยเฉพาะ ซาดิโอ มาเน่ จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องฉาว ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ฟอร์มสุดร้อนแรงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเดียวกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ระเบิดตาข่ายอย่างเมามันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
10. โม ซาลาห์ (หล่น 5 อันดับ)
“คิง ออฟ อียิปต์” แม้ว่าจะไม่หลุดจากอันดับท็อปเทน แต่ผลงานในสัปดาห์นี้ทำให้เขาหล่นไปอยู่อันดับ 10 ซาลาห์ โชว์ฟอร์มได้ดีในแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล บุกทุบ เบิร์นลี่ย์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเขายิงไปโดนโกลปัดชนเสา แม้ว่าจะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูแต่เจ้าตัวก็สามารถขู่แนวรับเจ้าบ้านได้ตลอด
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ฉาวในช่วงท้ายเกม ตอนที่ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งซัดประตูที่สองในเกมนี้จากการผ่านบอลสุดสวยของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ระเบิดอารมณ์หลังจากที่ ซาลาห์ ไม่ยอมจ่ายบอลให้เขาทำประตู กลายเป็นเรื่องให้พูดถึงกันตลอดทั้งสัปดาห์นี้ 10 ทีมฟุตบอลรวย
9. เจมส์ แมดดิสัน (คงที่) 10 ผลงานนักเตะ
ดาวเตะวัย 22 ปี ขึ้นชื่อลือชาว่ามีเทคนิคชั้นยอด แต่นักเตะก็พยายาม ที่จะช่วยทีมเล่นเกมรับซึ่ง ก็ทำได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเลือกนักเตะติดธงเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแฮปปี้ฟอร์มของ แมดดิสัน พอๆ กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ “จิ้งจอกสยาม”
8. เซบาสเตียน ฮัลเลอร์ (เข้าใหม่)
มานูเอล เปเยกรีนี่ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ให้คำนิยามดาวยิงเลือดเฟร้นช์ว่า “นักเตะสมบูรณ์แบบ” หลังจากที่เขาตะบันประตูให้กับทัพ “ขุนค้อน” ในเกมชนะ นอริช 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปในเกมกับ วัตฟอร์ด เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฮัลเลอร์ ซัดไป 2 ประตูในแมตช์นั้น จะว่าไปแล้วตอนที่นักเตะวัย 25 ปีย้ายจาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต มาอยู่กับ เวสต์แฮม
ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ (ราว 1,710 ล้านบาท) ทำให้แฟนบอล “เดอะ แฮมเมอร์ส” ถึงกับอึ้ง แต่จากผลงานซัดประตูในเวลานี้ แน่นอนทำให้แฟนบอลต้องเปลี่ยนความคิดทันที
ทั้งนี้ ฮัลเลอร์ กำลังเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่อย่าง เทรเวอร์ ซินแคลร์, เอียน ไรท์ และ เดมบา บา เมื่อเขากลายเป็นนักเตะรายที่ 4 ที่ยิงได้ 3 ประตูจากการลงเล่น 3 เกมแรกให้กับสโมสร
7. เจมี่ วาร์ดี้ (เข้าใหม่)
หัวหอกตัวอันตรายของ เลสเตอร์ กลับมาเป็นยอดดาวยิงเหมือนกับในฤดูกาล 2015/16 ที่ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ ร็อดเจอร์ส จัดการดึงความเป็นเพชฌฆาตของเขากลับมาอีกครั้ง
วาร์ดี้ ซัดประตูแรกในเกมกับ บอร์นมัธ โดยเป็นการยิงที่สวยสดงดงามตามสัญชาตญาณเพชฌฆาตของเจ้าตัว โดยจังหวะนั้น เบน ชิลเวลล์ โยนยาวจากแดนตัวเอง และ หัวหอกเลือดผู้ดี วิ่งฉีกหนีแนวรับคู่แข่งก่อนจะกระดกบอลเข้าหัวนายทวารเข้าประตูไปแบบนิ่มๆ
นอกจากนี้ วาร์ดี้ ยังโชว์ทักษะชั้นยอดในการกระชากบอลเข้ามาในเขตโทษก่อนจะผ่านให้ ยูริ ตีเลม็องส์ แปด้วยซ้ายเช็ดเสาเข้าประตูไปแบบสบายๆ ขณะที่ประตูปิดท้ายเกมนี้ ดาวยิงจอมเก่า แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณดาวยิงด้วยการแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลจากการยิงของ ตีเลม็องส์
6. เควิน เดอ บรอยน์ (ขึ้น 2 อันดับ) 10 ผลงานนักเตะ
ถ้า เควิน เดอ บรอยน์ ฟิต แน่นอนว่าเขาคือนักเตะหัวใจสำคัญในความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ แมตช์ถลุง ไบรท์ตัน ต้องบอกว่า “เรือใบสีฟ้า” โคตรฮอตเพราะเกมเริ่มไปราวๆ 2 นาที จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ก็ปล่อยของด้วยการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทีมขึ้นนำ หลังจากนั้น เดอ บรอยน์ ก็จัดการแอสซิสต์ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ซัดประตูที่สองให้ทีม
ทั้งนี้ สตาร์ชาวเบลเยียม ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างเพอร์เฟกต์ในพื้นที่แดนกลาง และยังผ่านบอลสวยๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้หลายต่อหลายครั้ง ส่วนนักเตะไบรท์ตัน ได้แต่ยืมทำตาปริบๆ ไม่สามารถรับมือกับ เดอ บรอยน์ ได้เลย
5. เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ขึ้น 1 อันดับ)
จำจังหวะการลักไก่ยิงประตูของ โรนัลดินโญ่ ที่ทำให้ เดวิด ซีแมน เสียคนในศึกฟุตบอลโลก 2002 ได้ไหม ? สำหรับลูกยิงของ “เจ้าหนูเทรนต์” อาจจะไม่ได้เหมือนกับประตูของ “ดินโญ่” เพราะมันแฉลบ คริส วู้ด แต่ก็มีความสำคัญมากๆ เพราะทำให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ในเกมปะทะกับ เบิร์นลี่ย์
สำหรับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับโอกาสจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ทำหน้าที่เดินเกมบุกแบบเต็มสูบ และนั่นทำให้เขากลายเป็นแบ็กขวาที่เก่งที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในเวลานี้ ที่สำคัญนักเตะยังพัฒนาเรื่องเกมรับค่อนข้างดีขึ้น และมีช่วยให้ “เดอะ เร้ดส์” เก็บคลีนชีตแรกในซีซั่นนี้
4. ตีมู ปุ๊กกี้ (หล่น 1 อันดับ)
หัวหอกตัวเก่ง นอริช ซิตี้ ทำผลงานค่อนข้างน่าผิดหวังในช่วงที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ กุนซือชาวเยอรมัน เริ่มกังวลเกี่ยวกับการที่ทีมขาดแผนสำรอง หรือแผนบี หากเกิดกรณีที่ หัวหอกทีมชาติฟินแลนด์ โดนคู่แข่งตามปะกบติดจนแผลงฤทธิ์ไม่ออก
อย่างไรก็ตาม ปุ๊กกี้ ก็ยังถือว่าเป็นกองหน้าที่สร้างผลงานได้น่าประทับใจ เพราะตอนนี้ซัดไปแล้ว 5 ประตูเป็นรองแค่ อเกวโร่ คนเดียวเท่านั้นในการลุ้นรางวัลดาวซัลโวสูงสุด แถมล่าสุดนักเตะก็เพิ่งได้รับการโหวตคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม ของ พีเอฟเอ ไปครอง
3. เซร์คิโอ อเกวโร่ (ขึ้น 4 อันดับ)
หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ไม่เคยหยุดยิงประตู เขายังคงระเบิดตาข่ายเป็นว่าเล่น และแน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานได้น่าสยดสยองก็มาจากหนึ่งในความคมกริบของ “กุน” นี่แหละ
อเกวโร่ ตะบันสองประตูในเกมกับ ไบรท์ตัน โดยต้องบอกว่าทั้งสองลูกมาคนละสไตล์ ลูกแรกเป็นการโชว์ทักษะความใจเย็นผสมเลือดเย็นก่อนตะบันเต็มข้อชนิตาข่ายแทบขาด ขณะที่ประตูที่สองเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคมกริบในการยิงประตูที่สุดเหลือชั้น ฉะนั้นหากเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์ กาเบรียล เชซุส ก็หาซื้อสนับติดก้นอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองได้เลย
ความเก่งฉกาจของ “กุน” ไม่ใช่แค่ยิงประตูเท่านั้น การจ่ายบอลให้เพื่อนก็เฉียบคม โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เรียกนักเตะรายนี้ว่า “แข้งพรสวรรค์สุดพิเศษ” หลังจาก ดาวเตะวัย 31 ปี แอสซิสต์ให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดประตูปิดกล่องในแมตช์ล่าสุด
สำหรับเกมต่อไปหลังจบช่วงฟีฟ่าเดย์ แล้ว แมนฯ ซิตี้ มีคิวเยือน นอริช ไม่อยากคิดเลยว่า อดีตหัวหอกแอตเลติโก มาดริด จะตะบันตาข่ายคู่แข่งกี่ประตู
2. ซาดิโอ มาเน่ (ขึ้น 2 อันดับ)
มาเน่ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมล่าสุด โดยสามารถปั่นป่วนแนวรับของ เบิร์นลี่ย์ ชนิดที่ไม่สามารถต่อกรได้เลย และยังจัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ด้วย โดยงานนี้ต้องขอบคุณ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ส่งบอลแบบถวายพานให้ซัดประตู
ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ สตาร์ทีมชาติเซเนกัล อาจจะถูกกลบไปบ้างจากเหตุการณ์ตบะแตกที่โวยวายเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะไม่พอใจ ซาลาห์ ที่ไม่ยอมส่งบอลให้ในจังหวะที่ตนยืนโล่งๆ จนกลายเป็นข่าวเมาท์กันสนุกปากเกี่ยวกับสปิริตภายในแค้มป์ “หงส์แดง”
สำหรับกรณีนี้ คล็อปป์ ยังคงขำๆ หลังจบเกม และถึงแม้จะมีประเด็นคาใจกันก็ตาม แต่สุดท้าย กุนซือชาวเยอรมัน สามารถเคลียร์ปัญหาทั้งหมดได้อย่างลงตัว และเขาก็ยังคงเลือก 3 ทหารเสือ “หินเหล็กไฟ” (เอสเอ็มเอฟ) ลงไล่ล่าตาข่ายพร้อมกันเหมือนเดิม
1. ราฮีม สเตอร์ลิง (คงที่)
ราฮีม สเตอร์ลิง ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าจะไม่มีชื่อทำประตูในเกมล่าสุด แต่ผลงานของเขายังคงมีบทบาทสำคัญในเกมรุกของ “เรือใบสีฟ้า” อยู่เสมอ ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม “เป๊ป” ถึงต้องส่งนักเตะลงสนามตลอด
สำหรับ อดีตดาวเตะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซัดไปแล้ว 5 ประตูให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ และแน่นอนว่า สเตอร์ลิง เป็นนักเตะที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องทุกๆ ซีซั่น ฉะนั้นในเวลานี้ สตาร์วัย 24 ปี จึงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นทั้งกับสโมสรและทีมชาติอังกฤษ
ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทาง >> @vvip123<< หากมีเรื่องสัย หรือต้องการได้ข่าวอะไรเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที รับประกันข่าวสาวใหม่ๆ ที่เราอัพเดตกันทุกวันแน่นอน