10 นักเตะอังกฤษ ที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
10 นักเตะอังกฤษ เป็นเรื่องปกติที่นักเตะเก่งๆ จากหลายๆทีม ที่มักจะถูกเสนอค่าตัว และจ่ายเพื่อนำไปอยู่ยังทีมของตนเอง โดยราคาของการตีค่าของนักฟุตบอลนั้น ส่วนมากก็จะตีจากความสามารถ ศักยภาพร่างกาย และฝีมือของตัวนักเตะเอง แล้วในวันนี้เราก็ได้คัดนักเตะจากอังกฤษ ที่มีค่าย้ายทีมที่แพงหูฉีก ในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล เราไปดูกันบ้างว่าจะมีใครบ้าง ใน 10 อันดับนี้ หนังออนไลน์ล่าสุด
10. เดวิด เบ็คแฮม
จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2003/04
ค่าตัว 33.75 ล้านปอนด์
ในฤดูกาล 2002/03 ท่ามกลางข่าวลือถึงความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง แบ็คแฮม และ กุนซือ ปีศาจแดง ในขณะนั้นอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำไปสู่จุดแตกหักระหว่าง ปีกขวาหน้าหล่อ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนกระทั่ง เรอัล มาดริด ที่ตอนนั้นกำลังสร้างอาณาจักร กาแลคติกอส
ขอรับช่วงดูแลปีกขวัญใจมหาชนต่อในปีถัดมา เรื่องเงินไม่เคยเป็นปัญหาของ ราชันชุดขาว พวกเขาโยนเงินกว่า 33.75 ล้านปอนด์ แลกกับ การคว้าตัวปีกขวารูปงามรายนี้ในซัมเมอร์ของซีซัน 2003/04
9. ลุค ชอว์ 10 นักเตะอังกฤษ
จาก เซาแธมป์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2014/15
ค่าตัว 33.75 ล้านปอนด์
หลังจบ ฤดูกาล 2013/14 เจ้าของตำแหน่ง แบ็คซ้ายที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี พีเอฟเอ 2013/14 ของ เซาแธมป์ตัน รายนี้ก็เนื้อหอมขึ้นมาสุดๆ หลายทีมยักษ์ใหญ่พยายามแข่งขันกันเพื่อล่าลายเซ็นของดาวรุ่ง นักบุญ
สุดท้ายเป็น ปีศาจแดง คว้าตัวไปร่วมทัพ ในราคา 33.75 ล้านปอนด์ ในซีซัน 2014/15 จนถึงปัจจุบัน แม้จะมีบางช่วงที่ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม แต่ ณ เวลานี้เขากลายเป็นกำลังหลักในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เรียบร้อยแล้ว
8. แดนนี ดริงค์วอเตอร์
จาก เลสเตอร์ ซิตี้ ไป เชลซี ปี 2017/18
ค่าตัว 34.1 ล้านปอนด์
หลังจากพาทีม จิ้งจอกสยาม คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/16 มาแบบหักปากกาทุกเซียน กองกลางเชื้อสายผู้ดี อังกฤษ รายนี้ ก็เป็นที่จับตามองจากหลายๆทีม แม้ในซีซัน 2016/17 จะมีข่าวลือพัวพันกับ อาร์เซนอล
แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไปเพื่อช่วย เดอะฟ็อกซ์ ลุยถ้วยฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจบฤดูกาลนั้นเป็น เชลซี ที่กำลังมีปัญหาเรื่องโควต้านักเตะสัญชาติอังกฤษ พวกเขาจึงทุ่มเงินก้อนโตถึง 34.1 ล้านปอนด์ แลกกับกองกลางรายดีกรีทัพ ทรีไลอ้อนส์ รายนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวแทบไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยหลังจากนั้น
7. อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน
จาก อาร์เซนอล ไป ลิเวอร์พูล ปี 2017/18
ค่าตัว 34.2 ล้านปอนด์
กองกลางเมืองผู้ดีรายนี้เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งกับ เซาแธมป์ตัน ก่อนมาแจ้งเกิดเต็มตัวกับ อาร์เซนอล โดย แชมเบอร์เลน ค้าแข้งอยู่ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 7 ฤดูกาล แต่เจ้าตัวจะไม่ได้เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ของ อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ ไอ้ปืนใหญ่
ในช่วงเวลาดังกล่าวและกลายเป็นแข้งสารพัดประโยชน์ของนายใหญ่ชาว ฝรั่งเศส กระทั่ง ฤดูกาล 2017/18 ลิเวอร์พูล ได้แสดงความสนใจในดาวเตะรายนี้เช่นเดียวกับหลายๆทีม แต่สิ่งที่ หงส์แดง เสนอให้กับผลผลิตอคาเดมี เซาแธมป์ตัน รายนี้ไม่เหมือนทีมอื่นๆ คือ จะให้เขาเล่นในตำแหน่งที่ถนัดที่สุด
6. แอนดี้ แคร์โรลล์
จาก นิวคาสเซิล ไป ลิเวอร์พูล ปี 2010/11
ค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์
การจากไปของ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ในช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ หน้าหนาว ปี 2011 นั้น สร้างความโกลาหลให้กับบอร์ดบริหารของ ลิเวอร์พูล พอสมควร ที่ต้องรีบหาตัวตายตัวแทนให้ทันก่อนเดดไลน์จะมาถึง
กระทั่งวันสุดท้ายของตลาด หงส์แดง สร้างเซอร์ไพรส์คว้าหัวหอกใหม่เข้ามา 2 คนรวด หนึ่งในนั้นคือ แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ก่อนหน้านั้น ฟอร์มกำลังร้อนแรงกับ นิวคาสเซิล แต่หลังจากย้ายมาสู่ถิ่น แอนฟิลด์ เขาไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมสมัยอยู่กับ สาลิกา ได้อีกเลย จนถูกปล่อยตัวไปในซีซัน 2013/14
5. ริโอ เฟอร์ดินานด์
จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2002/03
ค่าตัว 41.4 ล้านปอนด์
อดีตปราการหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกรายนี้ สร้างชื่อมากับ เวสต์แฮม ต่อเนื่องด้วย ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา ก่อนที่จะเนื้อหอมใน ตลาดซื้อขายนักเตะ ซึ่งสุดท้ายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควักเงินก้อนโตถึง 41.4 ล้านปอนด์
กระชากตัวกองหลังรายนี้สู่รัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้สำเร็จ และ ริโอ ก็ไม่ทำให้แฟน ปีศาจแดง ผิดหวัง เขากลายเป็นตัวหลักของทีมในทันที โดเจ้าตัวอยู่ค้าแข่งในถิ่น โรงละครแห่งความฝัน ยาวนานถึง 12 ปี ช่วยสโมสนกอบโกยรางวัลมากมาย จนกระทั่งย้ายออกไปในซีซัน 2014/15
4. ไคล์ วอล์กเกอร์
จาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2017/18
ค่าตัว 47.4 ล้านปอนด์
แบ็คขวาตัวจี๊ดรายนี้ แจ้งเกิดเต็มตัวในยูนิฟอร์ม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หลังจากที่สร้างชื่อมากับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดย วอล์คเกอร์ ถูก ไก่เดือยทอง ปล่อยออกจากทีมเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์
ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของพลพรรค ลิลลีไวทส์ ในเวลาต่อมา กระทั่งฝีเท้าของเจ้าตัวไปเตะตานายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา จนต้องทุ่มทุนสูงถึง 47.4 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวแบ็ครายนี้สู่ถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ในฤดกาล 2017/18
3. อารอน วาน-บิสซาก้า
จาก คริสตัล พาเลซ ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2019/20
ค่าตัว 49.5 ล้านปอนด์
แบ็คขวาดาวรุ่งเชื้อสาย คองโก รายนี้เพิ่งจะแจ้งเกิดมาสดๆ ร้อนๆ กับต้นสังกัดเดิมอย่าง คริสตัล พาเลซ ไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเป็นเพียงดาวรุ่งโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก จนกระทังซีซัน 2018/19 กุนซือจอมเก๋าอย่าง รอย ฮอดจ์สัน ตัดสินใจดันเขาสู่ทีมชุดใหญ่และ วาน-บิสซาก้า
ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาเป็นกำลังหลักของ คริสตัล พาเลซ แทบจะทันที ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและแข็งแกร่ง จนถูกใจบอร์ดบริหารของ ปีศาจแดง ที่กำลังมองหาแบ็คขวาธรรมชาติอยู่พอดี โดย เร้ดเดวิลส์ ถึงกับยอมทุบกระปุกจ่ายเงินกว่า 49.5 ล้านปอนด์ เพิ่อดึงแบ็คดาวรุ่งรายนี้สู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
2. จอห์น สโตนส์
จาก เอฟเวอร์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2016/17
ค่าตัว 50.4 ล้านปอนด์
เซ็นเตอร์แบ็คดีกรีแชมป์ พรีเมียร์ลีก รายนี้ เริ่มค้าแข้งกับ บาร์นสลีย์ ก่อนแมวมองของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน จะไปเห็นเข้าและดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2013 โดย สโตนส์ ค้าแข้งอยู่ในถิ่น กูดิสันพาร์ค 4 ฤดูกาล สามารถเล่นได้ทั้ง ปราการหลังตัวกลาง และ แบ็คขวา
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ สโตนส์ เป็นกองหลังที่ครบเครื่อง จนบางครั้งถูกดันขึ้นมาเป็นกองกลางตัวรับในยามจำเป็น ซึ่งฝีเท้าของ สโตนส์ ก็ไปเตะตา เป๊ป กวาร์ดิโอลา จน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องยอมจ่ายถึง 50.4 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับกองหลังเชื้อสายผู้ดีรายนี้มาในปี 2016
1. ราฮีม สเตอร์ลิง
จาก ลิเวอร์พูล ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2015/16
ค่าตัว 57.3 ล้านปอนด์
ปีกตัวจี๊ดรายนี้เป็นลูกหม้อจากอคาเดมีของ ลิเวอร์พูล และถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2011/12 โดยกุนซือสมัยนั้น รอย ฮอดจ์สัน มองเห็นแวว และนำมาปลุกปั้นหวังให้เป็นตัวหลักของทีมในอนาคต ในปีถัดมา เคนนี ดัลกลิช กุนซือคนใหม่ก็ยังให้ความไว้วางใจดาวรุ่งรายนี้
โดยการส่งลงสนามมากขึ้น และเมื่อมาถึงมือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สเตอร์ลิง ได้กลายเป็น ซูเปอร์สตาร์ระเบิดฟอร์มพา เดอะเร้ดส์ จบอันดับที่ 2 เกือบจะคว้าแชมป์ได้ในปีนั้น และเป็นอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการตัวปีกตัวจี๊ดรายนี้มาเสริมทัพ โดยในปี 2015 เรือใบสีฟ้า แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการตัว สเตอร์ลิง แต่ต้นสังกัดอย่างลิเวอร์พูลไม่ต้องการจะปล่อยปีกพรสวรรค์รายนี้
ทำให้เจ้าตัวถึงกับออกลูกงอแงขอย้ายทีม ทำให้ เร้ดแมชีน จำใจต้องขายปีกรายนี้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวสูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของนักเตะอังกฤษ ถึง 57.3 ล้านปอนด์
ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทาง >> @vvip123<< หากมีเรื่องสัย หรือต้องการได้ข่าวอะไรเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที รับประกันข่าวสาวใหม่ๆ ที่เราอัพเดตกันทุกวันแน่นอน