โม ซาลาห์ ราชาลูกหนังแห่งอียิปต์ ตำนานลูกหนังของสโมสรลิเวอร์พูล

โม ซาลาห์ ราชาลูกหนังแห่งอียิปต์ ตำนานนักเตะของโลกฟุตบอล

โม ซาลาห์ ราชาลูกหนังแห่งอียิปต์ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ stats ติดตามเส้นทางการค้าแข้ง ของโมฮัมเหม็ด ซาลาห์กับเส้นทางเริ่มต้น จนถึงเป็นกำลังสำคัญ ในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ และกลายเป็นตำนานของสโมสร ทั้งที่ยังค้าแข้งอยู่

นี้คือตำนานของลิเวอร์พูล และทีมชาติอียิปต์ ที่มีฝีเท้าระดับโลก ได้รับการยอมรับ โดยเว็บของเรานั้น จะพาไปดูเส้นทาง และความสำเร็จ ของซาลาห์กับทีมลิเวอร์พูล ที่เขากลายเป็นตำนาน นักเตะของลิเวอร์พูลอีกด้วย

โดยซาลาห์มี ชื่อเต็มว่าโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฮาเหม็ด มาห์รูส กาห์ลี นี้คือชื่อเต็ม ของเด็กหนุ่มจาก หมู่บ้านการ์เบียเรท ในเมืองนากริก ที่ลืมตาดูโลกในปี ค.ศ.1992 ในครอบครัวที่ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร

และกิจกรรมที่ ทำเพื่อสันทนาการ ก็มีให้เลือกไม่มากนัก ซึ่งแน่นอนว่าเด็กๆ ในประเภทนี้ ต้องเลือกฟุตบอล เพราะมันคือกีฬา ที่เข้าถึงง่ายที่สุด โดยตอน ซาลาห์ อายุ 7ขวบ ก็เริ่มเข้าขั้นบ้าฟุตบอลแล้ว มังงะ

นอกจากจะเตะ ฟุตบอลประจำแล้ว เขายังรอดู การถ่ายทอดสด ฟุตบอลจากยุโรป แทบทุกคืน โดยเฉพาะ ในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งฮีโร่วัยเด็กของเขาได้แก่ โรนัลโด้ R9, ซีเนดีน ซีดาน และ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ

ตัวของซาลาห์ เองในช่วงยังเด็ก เล่นให้กับทีมสโมสร Basyoun ที่ไม่ไกลจากบ้าน ของเขามากนัก เขานั่งรถไปเพียง ครึ่งชั่วโมงเพื่อ เข้าเมืองก็สามารถ ลงซ้อมกับทีมได้แล้ว ทว่าโชคชะตาได้พาให้เขาออกเดินทาง

ตอนอายุ 12ปี ซาลาห์ได้รับการติดต่อ จากทีมหนึ่งในต่างเมือง ที่ห่างออกไป จากบ้านของเขาราว 200 กิโลเมตร ซึ่งสัญญาฉบับนั้น นำมาซึ่งการต้อง เริ่มพิสูจน์ตัวเองทันที ว่าเขารักฟุตบอลขนาดไหน

โดยซาลาห์ในวัยเด็ก จะต้อฝออกเดินทาง คนเดียวทุกครั้ง โดยการเดินทาง แต่ละครั้งเป็น การนั่งรถเมล์และ รถประจำทาง 3-4 ต่อ กว่าจะถึงสนามซ้อม ซึ่งในแต่ละวันแล้ว รวมไป-กลับเขาใช้เวลาไปถึง 9ชั่วโมง

แน่นอนว่าสำหรับ เด็กอายุ 14ปี มันคืออะไรที่ยากลำบาก โมฮาเหม็ดซาลาห์อยู่ประเทศอะไร ถ้าไม่อยากจะเป็น นักฟุตบอลจริงๆ คงไม่มีใครที่ ยอมทิ้งความสนุก ได้แน่ในวัยขนาดนั้น ซาลาห์เก่งขึ้นทุกวันจาก การทุ่มสุดตัว การนั่งรถวันละ 9ชั่วโมง

ไม่เคยลดทอน ความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม และอยากพัฒนาตัวเอง ของเขาไม่มีสิ้นสุด สุดท้ายเขาก็ได้รับ การติดต่อจากทีม ในลีกสูงสุดอย่าง Al Mokawloon และนั่นคือจุดเริ่มต้น ของความยิ่งใหญ่ ของเขาโดยแท้จริง

โม ซาลาห์ ราชาลูกหนังแห่งอียิปต์ เริ่มต้นค้าเส้นทางลูกหนังกับฉายาเมสซี่แห่งอียิปต์

โดยหลังจาก การย้ายไปอยู่กับ Al Mokawloon ทำให้ชื่อของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ คายัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็น ชื่อที่แฟนบอลชาวอียิปต์ รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ ในช่วงต้นยุค 2010s เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เล่นในตำแหน่งริมเส้น

และมีความเร็วอย่างกับจรวด และมีเท้าซ้ายที่เฉียบขาด ซึ่งในช่วงเวลานั้น ทุกคนเรียกเขาว่า เมสซี่ อียิปต์ เดิมทีนั้นสโมสร ที่ดีที่สุดใน ทวีปแอฟริกาใต้ มักจะมาจากประเทศอียิปต์ ทีมอย่าง อัล อาห์ลี, ซามาเลก และ อิสไมลี่ย์

ล้วนเป็นสโมสรที่ ผลัดกันครอง ความยิ่งใหญ่ในศึก ชิงแชมป์ทวีป ในช่วงยุค 90-2000s  อย่างไรก็ตามถึงแม้ จะเป็นอย่างนั้น พวกเขากลับ ไม่มีนักเตะระดับ ที่ได้เล่นในยุโรป และถูกตีตราว่า เทพเลยสักคน UFABET

พวกเขาพิชิต ทะเลทรายซาฮาร่าได้ แต่ไม่มีนักเตะอียิปต์คนไหน สามารถข้ามทะเล เมดิเตอเรเนี่ยน และประกาศศักดาได้ นับย้อนกลับไป เห็นจะมีเพียง ฮอสซัม ฮัสซาน ตำนานกองหน้าในยุค 90s

ซึ่งแม้จะยิงประตู มากมายแต่ก็ไม่เคย ได้โอกาสเล่นในยุโรปสักครั้ง ต่อมาอีก 10ปี เป็นยุคของ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้ กองหน้าที่โด่งดังกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงยุค 2000s

และ อาเมอร์ ซากี้ กับทีมวีแกน รวมถึง โมฮาเหม็ด ซีดาน ที่เล่นในบุนเดสลีกา ต่างก็ทำได้แค่ในระดับหนึ่ง และมีปัญหาเรื่อง การยืนระยะทั้งสิ้น ดังนั้นการแจ้ง เกิดของโมฮาเหม็ด ซาลาห์จึงเป็นอะไรที่ พวกเขาตื่นเต้น

และเชื่อว่าเด็กคนนี้ มีความแตกต่าง จากนักเตะอียิปต์ยุคก่อน ซาดีโย มาเน ไม่ใช่แค่แฟนบอล ในลีกอียิปต์เท่านั้นที่คิดเช่นนี้ แม้กระทั่งกุนซือชาวอเมริกันอย่าง บ็อบ แบรดลี่ย์ ที่เคยได้เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ช ของทีมชาติอียิปต์

โม ซาลาห์ ราชาลูกหนังแห่งอียิปต์ ไม่ประสบความสำเร็จกับเชลซีแต่ก็ไม่ยอมแพ้

โดยหลังจากโด่งดังที่อียิปต์ เขาก็ได้ย้ายไปสโมสรบาเซิ่ล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ค่าตัว โดยเขาถือเป็นนักเตะที่ มีความสำคัญและฝีเท้าดีมาก สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2สมัย และเขาเลือกย้ายไป ร่วมสโมสรเชลซี

โดยต้องนอมรับว่าตอนนั้น เขาไม่โดดเด่น และถูกปล่อยให้ ฟิออเรนติน่า ยืมตัวไปใช้งาน นั่นคือสิ่งทุกคนรู้ดี ช่วงเวลากับ เชลซีนั้น เขาล้มเหลว ไม่มีอะไร เป็นชิ้น เป็นอัน นอกจากการปล่อยยืมตัว ให้กับทีมใน อิตาลีเท่านั้น

ถ้าเขายอมแพ้ เขาจะเป็นแค่ราชา แห่งซาฮาร่าที่จมทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนไปอีกคน แต่ซาลาห์ ไม่ใช่แบบนั้น เขาร้องขอ การย้ายทีมแบบ ยืมตัวด้วยตนเอง เพราะเชื่อว่า สิ่งที่เขาต้องการ คือ การลงสนาม เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเอง

ไม่ใช่ของปลอม ทำเหมือนขณะที่ เอเด็น อาซาร์ อดีตเพื่อน ร่วมทีมสมัยอยู่กับเชลซี ได้เล่าว่า ทุกคนต่างเห็นว่า ซาลาห์มีดี ณ เวลานั้น แต่มีหลากหลาย เหตุผลที่ยากจะเข้าใจ ว่าทำไมเขา จึงไม่ได้รับโอกาสเท่านั้นเอง

เหมือนกับ มูรินโญ่จะรู้ถึง การที่มีคน พยายามจะบอกว่า เขาเป็นคนที่ผิดพลาด ทว่าความจริง มูรินโญ่เผยว่า ซาลาห์เก่งจริง แต่ยังไม่แกร่งพอกับการเป็นตัวจริงให้ สโมสรเชลซี ตั้งแต่อายุ 21ปี ติอาโก้-อัลคันทาร่า

ประสบการณ์คือ สิ่งสำคัญ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประวัติ และนั่นคือสิ่งที่ เขาได้หลังออก ไปเล่นที่ อิตาลี 2ปี ก่อนโดน โรม่า ซื้อขาดไปในที่สุด ต้องยอมรับว่าเขา ในช่วงเวลานั้นยังเด็กจริง และทางเชลซีมี ขุมกำลังมากมายทั้ง ตำแหน่งตัวจริงและสำรอง

กลายเป็นนักเตะชั้นนำของ สโมสรโรม่าและเป็นนักเตะที่สามารถเล่นร่วมกับสตาร์ดังได้ดี

ช่วงเวลาที่เล่นให้กับ สโมสรโรม่านั้น ซาลาห์ เด่นแบบสุดๆ ระดับเป็น MVP ของทีมเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ ซาลาห์ได้บอล เขาสามารถสร้าง ความแตกต่างได้ ราวกับเป็น คนละคน จากสมัยอยู่ที่เชลซี

หากใครได้ตามฟุตบอล อิตาลีในช่วงนั้น จะได้เห็น สถิติ ซา ลา ห์ การผสานงานของซาลาห์ ที่สามารถเข้าได้กับเพื่อนๆ ระดับโลกอย่าง เอดิน เชโก้ กับ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ และนักเตะชั้นนำ ของลีกอิตาลี มากมายได้อย่างสบายๆ

และนักเตะระดับโลก อย่างต็อตติ ที่เขาเคยชมผลงาน ทางหน้าจอโทรทัศน์สมัยเด็กๆ ก็ชมเขาอยู่บ่อยๆ ถึงการเป็นนักเตะ ที่สามารถเปลี่ยนเกม ได้ภายในพริบตาเดียว และยังสามารถจบสกอร์ได้อย่างดี

ย้ายมาสโมสรลิเวอร์พูลที่ส่งให้เขาเป็นตำนานของสโมสรลิเวอร์พูลและพัฒนาฝีเท้าเป็นนักเตะระดับโลก

ผลงานสุดยอดที่โรม ทำให้ เยอร์เกน คล็อปป์ ดึง ซาลาห์มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2017-18 และที่เหลือคือตำนาน ทุกคนรู้ดีกันอยู่ แล้วว่าเกิดอะไร ขึ้นหลังจากนั้น ซาลาห์ที่ราคา 38 ล้านปอนด์

เมื่อครั้งที่ซื้อมา กลายเป็นนักเตะ ที่ประเมินค่าไม่ได้ ไปแล้วในตอนนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อายุ และกลายเป็น นักเตะที่อันตราย ที่สุดคนหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าคุณจะประเมิน เขาจากฟอร์ม เมื่อได้ลงสนาม หรือสถิติการยิงประตูก็ตาม

ทุกวันนี้เขาครองสถิติ นักเตะที่ใช้เวลายิง 100 ประตูเร็วที่สุด เป็นอันดับ 1ของสโมสร และเหนือสิ่งอื่นใด ที่ลืมไม่ได้ เขาคือคีย์แมน ที่ส่งทีมถึงแชมป์ ทั้ง ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2018-19 และ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20