แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคคนดัง เรื่องราวของตำแหน่งในสโมสรฟุตบอลที่มีความสำคัญ
แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคคนดัง นี้คืออีกหนึ่งผู้ขับเคลื่อน และกำลังสำคัญของ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และส่งผลถึงฟุตบอลวงการฟรีเมียร์ลีก คนหนึ่งที่มีชื่อเสียง ที่ประสบความสำเร็จ
และสร้างรากฐานให้กับ ฟุตบอลในอังกฤษ ได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากผลงานและ ความสำคัญของ ผอ.เทคนิค ที่ส่งผลกระทบต่อทีม เป็นอย่างมาก ผ่านผลงาน และมุมมอง ของแดน แอชเวิร์ธผอ.เทคนิคทีมชาติอังกฤษ
โดยเรื่องนี้เริ่มต้นจากการทีม ทีมชาติอังกฤษไม่เคย ได้แชมป์รายการ สำคัญมากว่า 5ทศวรรษ โค้ชทีมชาติอังกฤษ ไปไกลสุด คือรอบรองชนะเลิศ ทั้งที่ในช่วงหนึ่ง เคยมีขุนพล ชื่อก้องโลกที่ เป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่ในทีมชาติมากมาย
อย่าง เดวิด เบ็คแฮม , พอล สโคลส์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , เวย์น รูนี่ย์ อยู่ในทีม ทำให้พวกเขา เริ่มที่จะ คิดใหม่ ทำใหม่ เสียที ย้อนกลับไป เมื่อปี2000 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ ที่คล้ายกัน
กับทีมชาติเยอรมนี ในศึกฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียมเป็นเจ้าภาพ ตอนนั้นข่าวใหญ่ที่สุด ขึ้นหน้าหนึ่ง ทุกสำนักคือ การตกรอบแรกของ ทีมชาติเยอรมนี ภายใต้การทำทีมของ เอริค ริบเบ็ค
นั่นคือจุดหักเห สำคัญของการ ยกระดับวงการฟุตบอลเยอรมนี เพราะในช่วง ทศวรรษ90 โดยเฉพาะในยุค ของแบร์ตี้ โฟกท์ส ทีมชาติเยอรมันมีสัญญาณ สู่หายนะที่สำคัญ คือการขาดแคลนนักเตะดาวรุ่ง อนิเมะ
ที่จะขึ้นมาช่วยทีม นั่นทำให้ฟุตบอลโลก1998 และยูโร2000 พวกเขาใช้ นักเตะที่อายุมาก และส่วนใหญ่แล้ว อายุเกิน 25ปีทั้งหมด การปรับโครงสร้าง ฟุตบอลเยอรมนีเริ่ม ขึ้นในปี2002 พวกเยอรมัน สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอล
ที่มีสถานศึกษา ครบวงจรถึง 52แห่ง และมีโค้ชฟุตบอล ระดับผ่านใบอนุญาต ตามภูมิภาคกว่า 1,300คน อีกทั้งยังปรับ วัฒนธรรมการดึง นักเตะเข้ามาติด ทีมชาติชุดเยาวชน ให้โอกาสผู้เล่นที่มีเชื้อชาติอื่น เข้ามาติดทีม
พวกเขาไม่ชาตินิยม จนเกินไป มิเช่นนั้นเรา คงไม่ได้เห็น ซามี่ เคดิร่า นักเตะเชื้อตูนิเซีย, เยโรม บัวเต็ง ทีมชาติอังกฤษ รายชื่อ นักเตะเชื้อกาน่า หรือแม้แต่ เมซุต โอซิล ที่มีเชื้อชาติตุรกี 12ปีตั้งแต่พวกเขา เริ่มนับหนึ่งและเนรมิตการสร้าง ระบบเยาวชนทั้งหมด
และค่อยๆ ต่อยอดขึ้นมา ถึงเส้นชัยนั่นคือ การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลได้สำเร็จ แม้วันนี้ พวกเขาจะต้องเริ่มใหม่ กับกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค ที่เข้ามาแทนคนเก่า แต่ด้วยรากฐานที่มั่นคง ทำให้เยอรมนี ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง
แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคคนดัง มีนักเตะดังมากมาย แต่ไม่สามารถ ทำผลงานได้ดีได้
ย้อนกลับไปในปี ช่วงฟุตบอลโลก2006 ทีมชาติอังกฤษ เป็นทีมที่มีนักเตะชื่อดังอยู่ในทีม หากดูเฉพาะชื่อนักเตะแล้ว จอห์น เทอร์รี่, ริโอ เฟอร์ดินานด์, แอชลี่ย์ โคล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดวิด เบ็คแฮม
และ เวย์น รูนี่ย์ บวกกับโค้ชระดับโลกทั้ง สเวน โกรัน อีริคส์สัน และ ฟาบิโอ คาเปลโล่ รวมถึง เทรเวอร์ บรุคกิ้ง อดีตผู้อำนวยการเทคนิค คือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ของทีมชาติอังกฤษ เวอร์ชั่นสตาร์ดังเหล่านั้น
หากแต่พวกเขาไม่มี ความสำเร็จที่ จับต้องได้ ทีมชาติอังกฤษชุดนั้น ผ่านเข้าไปลึกสุด คือรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2ครั้ง และ ฟุตบอลชิงแชมป์ แห่งชาติยุโรปอีก 1ครั้ง และไม่ต้องพูดถึง ระดับฟุตบอลเยาวชน
ที่จัดโดยฟีฟ่า เพราะอย่างน้อย ทีมชาติเยอรมนี และ ทีมชาติสเปน ที่มีโครงสร้าง นักเตะดาวรุ่ง ที่เข้าขั้นดี ยังไม่เคยได้แชมป์ แต่ก็โผล่ไปคว้าอันดับ 3ได้ ในรุ่น ยู-20 ส่วนอังกฤษ ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา UFABACCARAT
ในการแข่งขัน ระดับฟีฟ่าคือ รอบก่อนรองชนะเลิศ ในรุ่น ยู-17 เมื่อปี 2007 และ 2011 เท่านั้น ในรอบ 10กว่าปีที่ผ่านมา ดาวรุ่งส่วนใหญ่ ที่เป็นลูกครึ่ง และมีเชื้อชาติ ให้เลือกมากกว่าหนึ่ง นิยมไปฝึกฟุตบอล ที่เยอรมนีและสเปน
รวมถึงเนเธอร์แลนด์ ที่จะขับศักยภาพ การเล่นของพวกเขา ออกมาได้มากกว่าอังกฤษ เทรเวอร์ บรุคกิ้ง ทีมชาติอังกฤษล่าสุด ตัดสินใจวางมือ จากตำแหน่ง ผู้อำนวยการเทคนิค หรือ Technical Director เมื่อปี 2012
และเปิดทางให้ โค้ชหนุ่มใจใหญ่ ที่ชื่อแดน แอชเวิร์ธเข้ามา รับหน้าที่แทน เพียงแต่เปลี่ยนชื่อ ตำแหน่งให้เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ความสามารถให้ถึงระดับสูงสุด หรือ Director of Elite Development
แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคคนดัง แนวคิดฟุตบอลที่ถูกสนับสนุนที่วางรากฐานจากรากหญ้าทั้งหมด
การเดิมพันครั้งใหญ่ ของสมาคมฟุตบอล อังกฤษหรือเอฟเอ คือการดึงคลื่นลูกใหม่ ที่มีอายุเพียง 41ปีในเวลานั้น เข้ามารับหน้าที่ ล้างโครงสร้างทั้งหมด อเล็กซ์ ฮอร์น เลขาธิการของเอฟเอในเวลานั้นกล่าวว่า
จุดประสงค์ที่เลือก แอชเวิร์ธเข้ามารับหน้าที่ ก็เพื่อปรับโครงสร้าง ของฟุตบอลอังกฤษ ในระดับรากหญ้าทั้งหมด เพื่อให้ทีมชาติ ประสบความสำเร็จในอนาคต โดยแอชเวิร์ธได้วางแนวคิดฟุตบอลของอังกฤษ ได้อย่างน่าสนใจ สโมสรเรนเจอร์
โดยแอชเวิร์ธให้แนวคิดฟุตบอลของอังกฤษยุคใหม่ และขยายความว่า ดีเอ็นเอของฟุตบอลอังกฤษ ประกอบด้วยสามคำคือ Evolving หรือวิวัฒนาการ, Developing หรือพัฒนาการ และ Winning หรือการไปสู่ชัยชนะ
เขาจัดทำเอกสารนี้ ขึ้นมาเป็น ลายลักษณ์อักษร และเชิญโค้ชทีมชาติ ทุกชุดมาทำความ เข้าใจร่วมกัน โค้ช ฟุตบอล ภาษาอังกฤษ ไม่เว้นแม้แต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ในตอนเริ่มวางแนวคิด เซาธ์เกตกำลัง คุมทีมชาติอังกฤษชุดยู-21
แอชเวิร์ธต้องการให้ นักฟุตบอลเข้าใจ และภูมิใจในประวัติศาสตร์ ของชาติ เพื่อให้ทุกคนเห็น คุณค่าของการเล่นให้ทีมชาติ และคุณค่าจะกลายเป็น วัฒนธรรมใหม่ของทีม และกลายเป็นกิจวัตร ของนักเตะทุกคน และทุกรุ่น
ส่วนวิธีการเล่น แอชเวิร์ธที่จบโปร ไลเซนส์ จากยูฟ่าตั้งแต่ปี 2004 ต้องการให้อังกฤษ เล่นอย่างฉลาด เริ่มตั้งแต่การครองบอล ทุกคนต้องรู้จักจังหวะที่เหมาะสม ในการขึ้นเกม และผ่อนเกม รู้จักวิธีการเก็บบอลคืน เมื่อเสียบอล
และเรียนรู้วิธีการยืน ตำแหน่งเมื่อไม่มีบอล แม้กระทั่งผู้รักษาประตู และสิ่งที่แอชเวิร์ธ ให้ความสำคัญมากที่สุด และเป็นปัจจัยโดดเด่น ของทีมที่จะประสบความสำเร็จ ในฟุตบอลยุคนี้ คือการ เปลี่ยนจากรับเป็นรุก และรุกเป็นรับ
การออกหนังสือของแอชเวิร์ธ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนทุกคน ให้เข้าใจถึงรากฐานและแผนของฟุตบอลอังกฤษ
ENGLAND DNA คือหนังสือที่แอชเวิร์ธ ต้องการทำขึ้นเพื่อ ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายไปใน ทางเดียวกัน โดยตั้งเป้าว่า ทุกคนจะสามารถ เข้าใจในระบบนี้ ภายในเวลา 5ปี นั่นคือการวางแผน แต่การปฏิบัติจริง
คำถามคือ แอชเวิร์ธ ทำอย่างไร? และการหานักเตะจากรากหญ้ามาติดทีมชาตินั้น หาจากไหน? คำตอบนั้นแอชเวิร์ธ ตอบแฟนบอล เรียบร้อยกับแผนงานที่ชื่อ Elite Player Performance Plan (EPPP)
หรือแผนสร้าง สุดยอดนักเตะ ซึ่งเป็นโครงการที่ เอฟเอและพรีเมียร์ลีก ทำงานร่วมกับลีก ในประเทศทุกระดับชั้น เพื่อสร้างนักเตะ ที่ฝึกในประเทศอังกฤษ หรือ Home Grown Players ให้มากขึ้นกว่าเดิม
การวางแผนงานของEPPPที่วางแผนร่วมมือ กับสโมสรฟุตบอลต่างๆ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
แผนงาน EPPP มุ่งเป้าไปที่ การวางแผนอนาคตให้กับเด็ก โดยสร้างสมดุลชีวิต ระหว่างการเรียน ชื่อโค้ชฟุตบอล และฟุตบอล ทำให้ทั้งสองภารกิจ ของเด็กยังเดิน ไปเคียงคู่กันได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ โดมินิค โซลานกี้ ศูนย์หน้าของลิเวอร์พูล
ที่ขณะนั้นเล่นให้ กับอังกฤษชุด ยู-17 ต้องทำข้อสอบหลัง จากการแข่งชิงแชมป์ แห่งชาติยุโรปที่มอลต้า โดยเอฟเอนำเอา ครูคุมสอบขึ้นเครื่องบินมาดูแล โซลานกี้โดยตรงด้วย เพื่อให้สามารถเตะให้ทีมชาต พร้อมสอบได้ด้วย