สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ นักเตะจอมโกหก เรื่องราวการโกหกของนักเตะระดับทีมชาติ
สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ นักเตะจอมโกหก นี้นักเตะที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จัก เคยเป็นหนึ่งในนักเตะของ ทีมชั้นนำของพรีเมียร์ลีก อย่างสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับเรื่องราวของ การโกหกหลอกลวงของเจ้าตัว
เพื่อไม่ต้องเดินทาง ไปรับใช้ชาติในการลุย ศึกฟุตบอลช่วยประเทศไอร์แลนด์ ของเขาเองโดยการโกหก กับการเรียกตัวไปเล่นทีมชาติไว้ว่า ย่าตาย จากนักเตะชั้นนำ ทีมเคยมีชื่อเสียงและ ความหวังของประเทศ
สุดท้ายกับโกหก คนในประเทศตัวเอง ว่าย่าตายเพื่อ ไม่อยากไปเล่นให้กับ ทีมชาติของเขาเอง ทำให้ถูกจดจำใน ฐานะนักเตะขี้โกหก และเป็นนักเตะชาวไอรีส ที่แฟนบอลในประเทศ ของเขาเองไม่ชอบขี้หน้า
โดยสตีเฟนนั้น เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ.1986 ที่เมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ เขาเป็นนักเตะเยาวชน ของแมนเชสเตอร์ซิตี้ และโด่งดัง กับการเล่นให้สโมสรแมนซิตี้ และเป็นหนึ่งในนักเตะ
ที่ลงเล่นกับแมนซิตี้อย่างยาวนาน มากกว่า 100นัด และช่วงพีคที่เขามีชื่อเสียง ก็เป็นในช่วงที่แมนซิตี้ เพิ่งเปลี่ยน เจ้าของคนใหม่ จาก ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นกลุ่มทุน จากอาบูดาบี สโมสรมีเงินมากมายในกระเป๋า
แต่ปัญหาคือพวกเขา ไม่มีแรงดึงดูด เพียงพอที่จะคว้า ตัวนักเตะระดับแถวหน้า ของวงการเข้ามาสู่ทีม การซื้อตัวในเวลานั้น จึงกลายเป็น การหว่านซื้อ นักเตะตัวเด่นๆ หรือดาวรุ่งที่ฟอร์มดีๆ จากทีมเล็กๆ เพื่อมาใช้งาน มังงะ
อย่างไรก็ตาม มีนักเตะไม่กี่คน ที่ทำผลงาน ได้น่าประทับใจ จนอยู่กับทีมได้ยาวๆ นอกเสียจากในรายของ แว็งซ็องต์ กอมปานี ที่กลายเป็นกัปตันทีม ในภายหลังเท่านั้น ที่เหลือออกแนวท่าดีที่เหลว ไม่คงเส้นคงวา
บ้างก็มาเพื่อเงิน เล่นแบบไม่ทุ่มเท จนไม่ได้ใจแฟนๆ ชาวซิตี้เซ่นส์ ในช่วงที่นักเตะ คนอื่นๆ ไม่ใช่นักเตะ แถวหน้านั่นแหละ สตีเฟ่นคือนักเตะ ที่ทุกคนยอมรับ ตรงกันว่าเขา คือตัวอันตรายที่สุดของแมนซิตี้ ณ เวลานั้น
สตีเฟ่นเป็นกองกลางตัวรุก มีวิธีการเล่นที่สวยงาม เป็นบอลสมอง โดยสมบูรณ์แบบ และยังมีคาแร็กเตอร์ ห้าวหาญ กัดไม่ปล่อย สู้ไม่ถอย เขาจึงกลาย เป็นที่รักของแฟนบอล ตั้งแต่วันที่เดบิวต์ กับทีมชุดใหญ่ในวัย 18ปี
สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ นักเตะจอมโกหก นักเตะที่เคยตกเป็นข่าวกับทีมชั้นนำมากมาย
โดยหากเป็นแฟนพรีเมียร์ลีก และติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ในช่วงเวลานั้น เชื่อเลยว่าชื่อของสตีเฟ่น ไอร์แลนด์จะต้องคุ้นหู และคยได้ยินชื่อเสียง และฝีเท้าของเขา ในช่วงฤดูกาล 2008-2009อย่างแน่นอน
ในช่วงตอนนั้นแมนซิตี้ ยังเป็นทีมที่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่มี แชมป์เหมือนกับ ทุกวันนี้ สตีเฟ่นมีข่าวเชื่อมโยงกับ ทีมที่ใหญ่กว่าตลอดทั้ง แมนยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส หรือแม้กระทั่งทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ด้วย
เรื่องนี้เกิดขึ้นใน เกมนัดอุ่นเครื่องปี 2008-2009 ที่ แมนซิตี้เจอ กับบาร์เซโลน่า ในเกมนั้น สตีเฟ่นฉายแสงเล่นได้ดีแบบสุดๆ เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในสนาม ในตอนนั้นแม้แต่เมสซี่ ยังโดนเขาจัดการและลดประสิทธิภาพ ประวัติกูตี
ในสนามลงไปได้เยอะ และเป็นสตีเฟ่นที่ทำผลงาน ในเกมนัดนั้นได้เป็นอย่างดี ทำให้บาร์เซโลน่าให้ความสนใจ และอีกหลายทีมก็มีข่าว ว่าต้องการได้เขามาร่วมทีม ความสำเร็จของเขา กับแมนซิตี้
อาจจะไม่ได้ มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หากมองในแง่มุม ของถ้วยรางวัล แต่ในยุคที่ สตีเฟ่นเป็นจอมทัพของทีม มันคือช่วงเวลา ที่เขาทำให้ แมนซิตี้เป็น ทีมที่ดีขึ้นจริงๆ เขามีส่วนทำประตู และแอสซิสต์ไป ทั้งหมดรวม 19ประตู
ในฤดูกาล2008-2009 เข้าชิงรางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ของพรีเมียร์ลีกและ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ของสโมสรใน ฤดูกาลนั้นอีกด้วย เมื่อเริ่มต้นได้ดีทุกอย่าง ก็ควรจะดีตาม มันเป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่ายๆ แต่ในเคสของสตีเฟนนั้น
แตกต่างออกไป จากนักเตะคนอื่นๆ ในฤดูกาล 2008-2009คือ ฤดูกาลที่ดีที่สุด ในชีวิตนักเตะของเขา เขาเริ่มมีชื่อเสียง เริ่มสูญเสียแนวทางความมุ่งมั่นที่เคยมีไป และสุดท้ายเมื่อหมดซึ่งแพชชั่น ปัญหาต่างๆ ก็ถูกเปิดเผย
สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ นักเตะจอมโกหก นักเตะที่มีแฟนสปอร์ตไลฟ์ส่องไปมากเท่าไหร่ทุกอย่างก็จะยิ่งชัดขึ้น
โดยเรื่องนี้นั้น เมื่อเขาทำผลงานได้ดีและ กำลังจะขึ้นสู่จุดของ การเป็นนักเตะชั้นนำ ของลีกและความหวัง ของแมนซิตี้ แต่สิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้ มันก็จะชัดและ แดงมากยิ่งขึ้น และส่งผลเสียอย่างชัดเจน
โดยเรื่องราวของความผิดต่างๆ ก็ต้องย้อนกลับไปในปี 2008 ความเก่งของสตีเฟ่น ทำให้เขาก้าวขึ้นมา เป็นตัวหลัก ของทีมชาติไอร์แลนด์ตั้งแต่อายุยังน้อย สิ่งนี้ควรจะเป็น ฝันของนักเตะดาวรุ่งหลายๆ คน
สำหรับการได้เล่น ทีมชาติชุดใหญ่ แต่สตีเฟ้นกลับมองมัน ต่างออกไป เขาไม่ชอบการติดทีมชาติด้วย เหตุผลหลายๆ อย่าง ซึ่งที่สุดแล้ว มันทำให้เขา พยายามหาข้ออ้าง เพื่อจะได้ ไม่ต้องไปเล่น ทีมชาติไอร์แลนด์เสมอ
ตอนนั้นเขาอายุ 21ปี และถูก สตีฟ สตอนตัน กุนซือของทีมชาติไอร์แลนด์ วางให้เป็นตัวหลักสำหรับสู้ศึกฟุตบอลยูโร2008 รอบคัดเลือก แต่ก็ตามที่ได้ว่าไว้ สตีเฟ่นรู้สึกว่า การติดทีมชาติ มันเป็นเรื่องเสียเวลา สำหรับเขา
ต่อให้วางเขา เป็นดาวเด่นมัน ก็ยังไม่เปลี่ยนมุมมอง ของเขาอยู่ดี เขาสร้างตำนาน มากมายเช่นการสร้างเรื่องโกหก ว่าย่าของเขาเสียชีวิต จากนั้นก็ตาม ด้วยการอ้างว่าปู่ ของเขาเสียชีวิตในครั้งถัดมา
และยังมีครั้งที่สาม ที่ขอปฏิเสธ ร่วมแคมป์ทีมชาติ โดยให้เหตุผลว่า แฟนสาวของเขาแท้งลูก หลังจากนั้นก็มี การเผยข้อมูล ผ่านสื่อในภายหลัง ว่าเรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง เขาแค่แต่งเรื่อง ทั้งหมดขึ้นมาเท่านั้นเอง
จากนักเตะความหวังของประเทศไอร์แลนด์ สู่การกลายเป็นนักเตะจอมโกหก
หลังจากเรื่องต่างๆ ที่เขาโกหกแดงออกมา สตีเฟ่นยังคง แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ โดยอ้างว่า เขาเข้าใจผิด และไม่ได้ตั้งใจ จะโกหกจริงๆ แล้วย่าเขาไม่ได้เสียชีวิต แต่เป็นญาติฝั่งพ่อ ของเขาต่างหาก ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด
ซึ่งคำคำโกหกของเขา ที่ออกมาแก้ตัวนั้น ดูเหมือนจะฟังไม่ขึ้น แฟนบอลทีมชาติไอร์แลนด์เริ่มมองเขาเปลี่ยนไป จากนักเตะดาวรุ่ง ที่เป็นอนาคตของทีมชาติ กลายเป็นแค่เด็ก ที่ไม่รู้จักโตคนหนึ่งเท่านั้น
และในช่วงเวลานั้นที่ ควรจะเป็นจุดพีคและ การก้าวขึ้นไป เป็นแข้งชั้นนำจากฤดูกาล 2008-09 เมื่อเรื่องของเขา ถูกแฉออกมา บวกกับฤดูกาล 2009-2010เขาเจ็บบ่อย จนหลุดเป็นตัวจริง ทำให้ฟอร์มของเขา ไม่สามารถกลับมาได้
โดนสื่อโจมตีและโดนแฉจนฟอร์มการเล่นจากแข้งดาวรุ่งและแข้งยอดเยี่ยมกลายเป็นนักเตะฟอร์มตก
หลังจากมีอาการบาดเจ็บ และฟอร์มที่ไม่ดี สิ่งที่สตีเฟ่นต้องเจอต่อคือ เริ่มมีการขายข่าวเสียๆ หายๆ ของเขา พฤติกรรมนอกสนาม การอ่อนซ้อมอะไรต่างๆ มากมาย สตีเฟ่นเองก็ใช่ว่า จะไม่รู้สึกรู้สา
เขาพยายามที่จะ กลับมาเป็นยอดนักเตะคนเดิม แต่ปัญหาคือ ร่างกายของเขาอ่อนแอลง จากการอ่อนซ้อม ทำให้เขาเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย สุดท้ายเขาก็พบว่า เขาไม่สามารถกลับไปอยู่ ในจุดเดิมของตัวเองได้อีกเลย