สตีฟ บรูซ อดีตนักเตะที่ปัจจุบันผันเป็นผู้จัดการ ตำนานผู้เล่นของแมนยูไนเต็ด
สตีฟ บรูซ อดีตนักเตะที่ปัจจุบันผันเป็นผู้จัดการ หากพูดถึงชื่อนี้ ในยุคสมัยนี้เชื่อว่า ประวัติ นักฟุตบอล แมน ยู มีแฟนบอลหลายคน ที่ไม่ทราบมาก่อนว่า นี้เคยเป็นอดีตนักเตะ ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และเคยเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกด้วย
โดยเขาถือเป็นนักเตะ ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ในการเป็นนักเตะ และในตอนนี้กับการเป็นผู้จัดการทีม โดยเขาถือเป็นผู้จัดการที่ สามารถคุมทีมและมีชื่อเสียง เป็นอย่างมากใน ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
โดยเขาเคยเล่นใน ตำแหน่งของกองหลังมาก่อน โดยเว็บของเรา จะพาไปทำความรู้จัก กับประวัติส่วนตัว และเรื่องราวของเขา ขณะค้าแข้งเป็นนักเตะ โดยบรูซเกิดวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ.1960 ที่เมืองนอร์ธัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ
โดยบรูซนั้นถือเป็น ผลผลิตจากวอลล์เซนด์ บอยส์ คลับ อันโด่งดัง โดยถือเป็นศูนย์ฝึกชื่อดังที่ ปั้นนักเตะอย่าง อลัน เชียเรอร์, ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ และรายล่าสุดที่มีชื่อเสียง ก็คือ ไมเคิล คาร์ริค แต่สำหรับบรูซนั้น ดูอนิเมะออนไลน์
เส้นทางสู่อาชีพค้าแข้ง ก็มีปัญหาอยู่บ้าง ในวัย 16 ปีเขาถูกปฏิเสธ จากทั้ง ซันเดอร์แลนด์, โบลตัน วันเดอเรอร์ส, เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ และเซาธ์พอร์ต โดยทุกทีมให้ เหตุผลว่าตัว ของเขาเล็กเกินไป บรูซถึงกับ ต้องหันไปทำงาน
เป็นช่างประปาฝึกหัด ให้กับบริษัทสวอน ฮันเตอร์ แต่ก่อนที่ เขาจะหันไป ทำแบบเต็มตัว เขาก็ได้รับข้อเสนอ จากจิลลิ่งแฮม ยื่นเข้ามาเพื่อให้เขา มาเล่นด้วย หลังจากที่ได้ ประเดิมสนาม ในลีกให้กับจิลลิ่งแฮม
ในช่วงต้นฤดูกาล 1979/1980 ซึ่งเขาเพิ่งมี อายุแค่ 17ปี เขาก็ได้ลงสนาม อยู่เรื่อยๆ จนกระทั่ง ลงเล่นให้สโมสร ไปมากกว่า 200เกม จากนั้นเป็นทาง สโมสรนอริชซิตี้ ก็จ่ายเงิน 135,000ปอนด์ คว้าตัวเขาไปร่วมทีม ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1984
โดยที่แคร์โรว์ โร้ดนั้น บรูซคว้าแชมป์ลีกคัพ ได้ด้วยในปี ค.ศ.1985 จากนั้นในปีต่อมา นิ ว คาส เซิ่ ล แชมป์ ก็คว้าแชมป์ดิวิชั่น2 ก่อนที่จะย้าย มาค้าแข้ง ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดมาหลังจากมีชื่อเสียง
น่าแปลกที่เขา ไม่เคยถูกเรียก ติดทีมชาติอังกฤษเลย ทั้งที่ถือเป็นนักเตะ กำลังสำคัญของทีม เขาทำได้ดีที่สุด เพียงแค่ติดทีม สิงโตคำรามชุดบีเท่านั้นเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลก กับฝีเท้ากับความสำเร็จ
สตีฟ บรูซ อดีตนักเตะที่ปัจจุบันผันเป็นผู้จัดการ กับการย้ายไปร่วมทีมแมนยูไนเต็ด
โดยการที่บรูซ ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นถือว่า เป็นนักเตะที่คุ้มค่า ทุกปอนด์ในราคา 825,000ปอนด์ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จ่ายเป็นค่าตัวของเขา ให้กับทางสโมสรนอริช ซิตี้อย่างแท้จริง
โดยตอนนั้น เขาย้ายมาในเวลา 2สัปดาห์ ก่อนที่จะอายุครบ 27ปีใน เดือนธันวาคม ค.ศ.1987 ถือเป็นหนึ่งใน การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุด ตลอดกาลอีกด้วย เท่าที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำมา กับการซื้อนักเตะวัยนี้มา
โดยในช่วงเวลานั้นบรูซ ได้ยืนเป็นกองหลัง ตัวกลางคู่กับ แกรี่ พัลลิสเตอร์ และทั้งคู่ ก็ได้รับการยอมรับ ว่าทำผลงานได้ อย่างแข็งแกร่ง ราวกับหินผา และถือเป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็ค ในช่วงเวลานั้นที่ดีที่สุดอีกด้วย คาสิโนออนไลน์
และถูกพูดถึงถูกยกย่อง อยู่เป็นประจำ ทั้งคู่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกได้ ในปี 1993, 1994 และ 1996 ในฐานะทีม ที่กำลังสร้าง ขึ้นมาใหม่ เช่นเดียวกับความสำเร็จ ในยูโรเปี้ยนคัพ วินเนอร์สคัพ 1991, เอฟเอคัพ1994 และ1996 และลีกคัพ 1992
ประตูที่น่าจดจำ สำหรับบรูซ ก็คือการขึ้นโขก ท้ายเกมคนเดียว 2ประตู ในเกมที่พบ กับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ผู้รักษาประตูแมนยูทั้งหมด นั่นช่วยให้ ทีมปีศาจแดงสามารถ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ในฤดูกาล 1992/1993 ได้สำเร็จ
เรียกได้ว่าเป็น พลังขับเคลื่อน สโมสรเข้าสู่ฟุตบอล ในยุคสมัยใหม่ อย่างแท้จริงที่ถือเป็นกำลัง สำคัญที่คอยช่วยเหลือ และประสบความสำเร็จ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในช่วงเริ่มต้นของเหล่า คลาสออฟ92
สตีฟ บรูซ อดีตนักเตะที่ปัจจุบันผันเป็นผู้จัดการ กองหลังจอมถล่มประตู
โดยเรื่องนี้นั้น เชื่อว่ามีแฟนบอลหลายคน นักเตะ แมนยู เก๋า ที่ไม่ทราบแต่หาก ไปดูสถิติและค้นดูแล้วนั้น จะทราบดีว่า บรูซนั้นถือเป็นกองหลัง ที่สามารถทำประตู จากการเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คอาชีพ ได้แบบเป็นจำนวนมาก
เขาเป็นนักเตะที่แฟนบอล รักและชื่นชอบ แม้แต่ตัวของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็ยัง ชื่นชมและ ยกย่องเขาอยู่ เป็นประจำ โดยนอกจากจะสามารถ บัญชาเกมรับ ได้อย่างยอดเยียม แล้วยังมีหนึ่งฤดูกาล 1990-1991
ที่บรูซสามารถ ยิงไปได้ถึง 19ประตู จากตำแหน่งหลักของ ตัวเองนั่น ก็คือเซนเตอร์แบ็ค จากเรื่องนี้จึงทำให้บรูซ กลายเป็น ดาวซัลโวร่วม ในลีกฤดูกาลนั้น ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่13 ประตู ร่วมกับ ไบรอัน แม็คแคลร์ หัวหอกชาวสก็อตติช ดิเอโก้-ฟอร์ลัน
แม้ว่าจะมาจาก การยิงจุดโทษ ไปถึง 11ครั้ง แต่นี่ก็ถือเป็น สถิติที่ยอดเยี่ยม ของกองหลัง ที่นานๆ จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง และหากจะมี คนที่โดดเด่นกว่า บรูซก็คงมี แค่สจ๊วต เพียร์ซกองหลังที่ เคยทำได้ 16ลูก ในหนึ่งฤดูกาล โดยไม่มีจุดโทษเลย
เหนือไปกว่านั้น ฤดูกาลถัดมาบรูซ ยังสร้างอีกหนึ่งตำนาน นิวคาสเซิล ผู้เล่น ด้วยการเป็น กัปตันทีมชาวอังกฤษ คนแรกที่พาทีม ได้ดับเบิ้ลแชมป์เอฟเอคัพ และพรีเมียร์ลีก ขณะที่โดยรวม ตลอดอาชีพ การค้าแข้งแล้ว บรูซ ก็สามารถยิงไปได้ถึง 113ประตู
ติดอันดับ7 ของกองหลัง ที่ยิงได้มากที่สุด ตลอดกาล จากนักเตะทั่วโลก ในการจัดอันดับ ของทอล์คสปอร์ต ซึ่งนี่ก็เป็นเหมือน การพิสูจน์ได้ว่า ไม่ว่าจะเล่นเป็น กองหลังหรือ ตำแหน่งไหน ก็สามารถทำประตู ช่วยทีมได้เช่นกัน
บรูซกับการประสบความสำเร็จใน การค้าแข้งกับแมนยูไนเต็ดและถูกยกย่องอย่างมากมาย
โดยหลังจากการประสบความสำเร็จ แกรี่ พัลลิสเตอร์ และสร้างสถิติมากมาย เขาก็ตัดสินใจ ย้ายออกจาก ทีมปีศาจแดง แบบไร้ค่าตัวในปี ค.ศ.1996 โดยไปเล่นกับเบอร์มิงแฮมซิตี้ ก่อนจะไปแขวนสตั๊ด ที่เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด
โดยตลอดเวลา 9ปี กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาลงเล่น ไปทั้งหมด 414เกม และยิงประตูได้ 51ลูก ซึ่งถือว่าได้รับการยกย่อง เป็นอย่างมาก ขนาดนั้นก็ ที่ยิงได้มากเพราะว่าเขา รับหน้าที่ยิง ลูกจุดโทษ ให้กับทีมด้วย
และในฤดูกาล 1990/1991 เขาก็ถึงกับ เป็นดาวซัลโวร่วม รวมทุกรายการ ของทีมเลยด้วยจำนวน 19ประตู และทำให้ชื่ของเขา ถูกยกให้เป็น นักเตะที่ประสบความสำเร็จ มากในการเป็นผู้เล่น เซ็นเตอร์แบ็คชาวอังกฤษ
กับการเริ่มต้นเป็นผู้จัดการทีม ที่ถูกเรียกว่าผู้จัดการทีมพเนจรของพรีเมียร์ลีก
โดยหากพูดถึงสตีพ บรูซเขานั้นจะถูกจดจำ จากยุคสมัยนี้ที่เป็น ผู้จัดการทีม ที่มีชื่อเสียงที่ค้าแข้ง อยู่ในสโมสรต่างๆ ภายในพรีเมียร์ลีก มาอย่างยาวนาน โดยในปี ค.ศ.1998 เขาเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีม
กับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ในฐานะผู้เล่น และผู้จัดการทีม จากนั้นก็มารับงาน บรูซ นับสิบจะจูบ ที่ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์, วีแกน แอธเลติก 2 สมัย, คริสตัล พาเลซ, เบอร์มิงแฮมซิตี้, ซันเดอร์แลนด์ และ ฮัลล์ซิตี้ และอีกมากมาย จนถึง นิวคาสเซิล ในปัจจุบันนี้