วิค บัคกิงแฮม ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอล ผู้วางรากฐานโททัลฟุตบอล

วิค บัคกิงแฮม ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอล ผู้คิดค้นแนวทางการเล่นฟุตบอลทั่มีชื่อเสียง

วิค บัคกิงแฮม ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอล นี้คืออดีตผู้จัดการ ทีมฟุตบอลชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง และได้รับการยกย่องมาก โดยเขาคือผู้จัดการ ที่เป็นต้นแบบ และรากฐานของฟุตบอล แนวใหม่ที่ถูกต่อยอด จนถึงปัจจุบัน

นี้คือรากฐาน และผู้คิดค้นการเล่น ฟุตบอลแนวใหม่ กับแนวคิดของเขา ที่มาเป็นจริงได้ พระราชวังบักกิงแฮม ด้วยฝีมือของ โยฮัน ครัฟฟ์ ที่ถูกเรียกกันว่า โททัลฟุตบอล ที่ถูกต่อยอดเป็น ติกิตากา ในปัจจุบันนั้นมาจาก แนวคิดของเขา

โดยเว็บของเราจะพา ไปดูเส้นทางของเขา และสไตร์ฟุตบอลของเขา ในช่วงอดีตสมัยก่อน เป็นมาอย่างไร โดยบัคกิงแฮม เริ่มต้นเส้นทางในวงการฟุตบอล ด้วยการลงเล่นให้แก่ นอร์ทฟลีต ยูไนเต็ด เมื่อปี 1934

ก่อนย้ายสู่ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ในปีถัดมา และลงเล่น ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ตลอดอาชีพ นักฟุตบอลที่เหลือ Vic Buckingham ก่อนประกาศ แขวนสตั๊ด ในปี1949 ขณะค้าแข้ง ให้กับทัพไก่เดือยทอง บัคกิงแฮมได้รู้จักกับ อาร์เธอร์ โรว์

กองหลังรุ่นพี่ ผู้มีวิสัย ทัศน์ก้าวไกล ทั้งสองเห็น ตรงกันว่า ฟุตบอลอังกฤษโบราณ หรือ การโยนบอลไปข้างหน้า เพื่อใช้กองหน้า ตัวใหญ่ทำประตู คือรูปแบบ การเล่นที่ล้าหลัง อาร์เธอร์ โรว์ ที่ผันตัวมารับงาน ดูบอล

ผู้จัดการทีมท็อตแนม ฮอทสเปอร์ในปี1949 จึงได้คิดค้น ฟุตบอลรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Push and Run หรือฟุตบอลวัน-ทู ที่เน้นการจ่ายบอล และ เคลื่อนที่ อย่างรวดเร็ว นี่คือแทคติกที่ฟุตบอลอังกฤษ ไม่เคยเห็น

ด้วยความแปลกใหม่ อาร์เธอร์จึงพา สเปอร์สคว้าแชมป์ ดิวิชั่น2 ในฤดูกาล 1949-1950 และแชมป์ดิวิชั่น1 ฤดูกาล 1950-1951 Victor Frederick Buckingham ความสำเร็จของท็อตแนม ฮอทสเปอร์และ อาร์เธอร์โรว์ กลายเป็น แรงบันดาลใจ

ให้บัคกิงแฮม เริ่มต้นสร้าง ฟุตบอลของตัวเอง ปีค.ศ.1953 เขารับงาน เป็นผู้จัดการทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และนำสไตล์การเล่น แบบวัน-ทู มาใช้ จนพาทีมคว้า แชมป์เอฟเอคัพ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้าทำงาน

วิค บัคกิงแฮม ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอล เริ่มต้นแนวคิดการสร้างทีมแบบใหม่

หลายคนคงจะทราบ กันดีว่าฟุตบอล อังกฤษนั้นตั้งแต่ สมัยก่อนจะมี รูปแบบการเล่น ที่โด่งดัง และเป็นความ เป็นฟุตบอลอังกฤษ ที่สื่อออกมา ที่คนทั่วโลก รู้จักกันดีคือ การเล่นแบบออกข้าง แล้วเปิดโหม่ง

หรือฟุตบอลเปิดโหม่งนั้นเอง โดยบัคกิงแฮมจึงมี ความคิดที่ จะเปลี่ยนแนวทาง และสร้างแนวทางฟุตบอล ของตัวเขาเอง กับสโมสรในอังกฤษ ทำให้เป็นรูปเป็นร่สง มากขึ้นกับ แนวทางฟุตบอลของเขาเอง

ที่จะต้องไม่เหมือนใคร และใช้งานได้ผล ใช้งานได้จริง บัคกิงแฮมมี แผนการใหญ่ อยู่ในหัว vic buckingham barcelona เขาไม่เพียง ต้องการพาต้นสังกัด ประสบความสำเร็จ แต่ยังรวมถึง การปฏิวัติฟุตบอลในประเทศอังกฤษ

ให้เปลี่ยนมาใช้ รูปแบบการเล่น แบบเท้าสู่เท้า โชคร้ายที่ บุคลากรใน วงการฟุตบอลอังกฤษ ไม่เห็นด้วย กับแนวคิดของบัคกิงแฮม นอกจาก เวสต์บรอมวิชอัลเบียน ทีมอื่นในอังกฤษกลับเลือกใช้ฟุตบอลโยนยาว

หรือเปิดโหม่งนั้นเอง แทนที่จะเป็น ฟุตบอลดูสนุก บุกสะใจ เมื่อปราศจาก แรงสนับสนุน จากคนในบ้านเกิด บัคกิงแฮมจึง เริ่มมองหาสโมสรใหม่ที่ให้อิสระ มากกว่านี้ ปีค.ศ.1959 บัคกิงแฮมสร้างความประหลาดใจ สตีฟ เดวีส

แก่ชาวอังกฤษทั่วประเทศ เมื่อเขาโบกมือลา เวสต์บรอมวิชอัลเบียน สโมสรระดับ ท็อป5 ของลีกในขณะนั้น เพื่อไปรับงาน เป็นผู้จัดการทีม อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม สโมสรกึ่งสมัครเล่น ในประเทศเนเธอร์แลนด์

วิค บัคกิงแฮม ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอล สร้างแนวคิดและความเป็นตัวตนของอาแจ็กซ์

บัคกิงแฮมเลือกย้าย ไปเล่นลีกฟุตบอล ของประเทศอื่น อย่างอาแจ็กซ์เพื่อ พัฒนาฟุตบอล สไตร์ของเขาขึ้นมาเอง โดยการย้ายจาก สโมสรระดับแนวหน้า ในอังกฤษ สู่ทีมกึ่งสมัครเล่น ในประเทศที่ กีฬาฟุตบอลเพิ่งเริ่มต้น

จึงดูเหมือน การถอยหลังครั้งใหญ่ ในอาชีพของบัคกิงแฮม แต่ความจริง กลับตรงกันข้าม อาแจ็กซ์ในยุคนั้น มองเห็น ความสามารถ และความยอดเยี่ยม ของฟุตบอลเท้าสู่เท้า จึงให้อิสระแก่บัคกิงแฮม

ในการสร้างสรรค์ ไอเดียอย่างเต็มที่ ข้อกำหนดเดียวที่เฮดโค้ช ชาวอังกฤษต้องตอบรับ คือการปลุกปั้นเยาวชน ของสโมสรให้ กลายเป็นแกนหลักของทีม โชคดีของบัคกิงแฮม หนึ่งในนักเตะรุ่นเยาว์เหล่านั้น

คือ โยฮัน ครัฟฟ์ ดาวรุ่งพรสวรรค์ สูงวัย 12ปี ที่เริ่มต้น ซึมซับปรัชญา ฟุตบอลของบัคกิงแฮม ซึ่งกำลัง ฝังรากลึกลง ไปในสโมสร ตั้งแต่ทีมชุดใหญ่ จนถึงระดับเยาวชน แทคติกของบัคกิงแฮม ปฏิวัติวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนด์

เขาประสบความสำเร็จ อย่างรวดเร็วกับ อาแจ็กซ์ ด้วยการคว้าแชมป์ ลีกเอเรดีวีซี ในฤดูกาล 1959-1960 และรองแชมป์ ในฤดูกาล 1960-1961 ผ่านรูปแบบการเล่น ที่เน้นการครองบอล, การจ่ายบอลสั้น

และการเคลื่อนที่ อย่างชาญฉลาด เมื่อปราศจากบอล บัคกิงแฮมวาง รากฐานฟุตบอล ที่แข็งแรงแก่อาแจ็กซ์ เป็นเวลา 2ปี ก่อนตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อคุมทีม เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เมื่อปี 1961 ทว่าหลังล้มเหลวที่อังกฤษ

เขาหวนมาคุม อาแจ็กซ์อีกครั้ง ในปีค.ศ1964 แม้ไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนการคุมทีมหนแรก เนื่องจากนักเตะ ตัวหลักที่เขา สร้างมาในยุคแรก ทยอยออกจากทีม แต่คราวนี้ บัคกิงแฮม มีโอกาสร่วมงานกับครัฟฟ์

ผู้วางรากฐานและอาจารย์ฟุตบอล ที่เป็นจุดเริ่มต้นของโททัลฟุตบอลที่พลิกวงการฟุตบอล

บัคกิงแฮมถ่ายทอด แนวคิดของเขา แก่ครัฟฟ์ และนักเตะเลือดใหม่ ของอาแจ็กซ์ นอกจากการเล่น ฟุตบอลสวยงามแล้ว เขายังเน้นย้ำไปที่การสร้างทีม ด้วยปัจจัย นอกสนาม ไม่ว่าจะเป็น การสร้างผู้เล่นที่มีคุณภาพ,

กฎระเบียบที่เข้มงวด, ความเป็นสุภาพบุรุษ และความหยิ่งผยอง ในฟุตบอลของตัวเอง บัคกิงแฮมจากลา อาแจ็กซ์อีกครั้งใน ปีค.ศ.1965 แต่รากฐานฟุตบอล ที่เขาวางไว้ แก่สโมสรแห่งนี้ ไม่เคยจางหายไป

ครัฟฟ์กลายเป็น นักเตะที่มี คาแรกเตอร์ถอดแบบ จากตำรา ของบัคกิงแฮม เมื่อบวกกับการเข้ามาของ ไรนุส มิเชลส์ ที่เข้ามาต่อยอดแนวทาง ของบัคกิงแฮม ด้วยแทคติกโททัลฟุตบอล ทำให้มันถูกพัฒนามากขึ้น

มุ่งสู่บาร์เซโลน่าและถ่ายทอดมรดก ฟุตบอลจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงลูกศิษย์ที่รับปรัชญาของเขาไปเต็ม

โดยบัคกิงแฮมได้ย้ายไป คุมสโมสรบาร์เซโลน่า และเขาสามารถพาทีม ประสบความสำเร็จได้ ถึง 2ปีและวางรากฐานฟุตบอลได้ เป็นอย่างดี แจ่เสียดายที่ เขาไม่สามารถทำได้สำเร็จ จากอาการป่วยของเขาเอง

ทำให้เขาต้องออกจากทีม และส่งต่อบาร์เซโลน่าให้กับ ไรนุส มิเชลส์ จากผู้ที่มารับไม้ต่อเขา จากอาแจ็กซ์ เข้ามารับงานที่คัมป์นู และในปี 1973 บาร์เซโลนาที่ พ้นโทษแบนห้ามซื้อ นักเตะจากต่างประเทศ คว้าตัวโยฮัน ครัฟฟ์

เข้ามาเป็นส่วน เติมเต็มสุดท้าย และเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ของสโมสรแห่งนี้ ไปตลอดกาล นับแต่วันนั้น โททัลฟุตบอล กลายเป็นดีเอ็นเอของบาร์เซโลนา ที่ถูกส่งต่อผ่าน ผู้จัดการทีมรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่มิเชลส์, ครัฟฟ์จนถึง เป๊ป กวาร์ดิโอลา