ลุค แชดวิค อดีตนักเตะแมนยูที่ถูกบูลลี่ อดีตแข้งแมนยูที่กลายเป็นเป้าบูลลี่ของโลกฟุตบอล
ลุค แชดวิค อดีตนักเตะแมนยูที่ถูกบูลลี่ ลุ ค แช ด วิ ค stats นี้คือนักเตะที่ ควรจะเป็นความหวังและ เป็นกำลังสำคัญให้กับทีม แต่กับไม่สามารถขึ้นมา เป็นกำลังให้กับทีมแมนยูไนเต็ดได้ แต่เพียงฝีเท้าไม่ได้ก็ คงไม่ได้เป็นที่จดจำหรือมีเรื่องมาเล่า
แต่กลายเป็นว่า เขากับโดนบูลลี่อย่างหนัก ในโลกฟุตบอลซึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่ควร เป็นอย่างมากกับ การโดนบูลลี่ในโลก ฟุตบอลโดยเฉพาะ กับนักเตะของแมนยูไนเต็ด ที่แฟนบอลทีม เดียวกันเองกับบูลลี่นักเตะ จากอคาเดมี่ของตัวเอง
โดยเรื่องราวนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะ เกิดขึ้นและ ไม่ควรจะเกิดขึ้น เรื่องฟอร์มการเล่น ในแต่ละนัดสามารถ วิจารญได้ แต่เรื่องของการบูลลี่ และเป้าโจมตี จากแฟนบอลต่อ นักเตะเพียงคนเดียว และเป็นเรื่องหน้าตา ดูบอล
เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเรามาย้อนดู เส้นทาง ของลุค แชดวิคกับเรื่องราว ของการบูลลี่เขากัน โดยเรื่องเริ่มต้นจาก Class of 92 ที่เป็นเหมือนไอดอล ของนักเตะแมนยูไนเต็ด รวมถึงนักเตะหลายคนในยุคนั้น
นั้นคือหมุดหมาย สำคัญที่ทำให้ ทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการยอมรับในฐานะแหล่ง ปลุกปั้นนักเตะฝีเท้าดี เมื่อนักเตะอย่าง ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, นิกกี้ บัตต์, สองพี่น้อง แกรี่-ฟิล เนวิลล์
ได้กลายมาเป็น กำลังสำคัญ ของปีศาจแดงในการไล่ล่าแชมป์ ในทศวรรษต่อมา หลังจากนั้น อคาเดมีของแมนยูไนเต็ด ก็ได้รับการจับตา เป็นพิเศษว่า จะมีใครก้าวขึ้นมา เป็นรุ่นต่อไป จนกระทั่ง ในช่วงปลายยุค 90s
พวกเขาก็มี สายเลือดใหม่ ที่ดูมีแวว และหนึ่งในนั้นคือลุค แชดวิคที่จะกลายเป็น กำลังสำคัญ ในยุคต่อมา เขาเติบโตขึ้นมา จากทีมเยาวชน ของอาร์เซน่อล ก่อนจะย้ายมาอยู่แมนยูไนเต็ด ตอนอายุ 14ปี
ในฐานะนักเรียนทุน หลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประทับใจในผลงาน rory mcgrath ตอนที่ถูกชวน มาซ้อมที่สโมสร และได้ลงเล่นใน เกมพบกับทีมเยาวชนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และกลายเป็นหนึ่งใน ความหวังของทีมเยาวชนชุดนั้น
ลุค แชดวิค อดีตนักเตะแมนยูที่ถูกบูลลี่ กับการเป็นเด็กที่ทำผลงานได้ดีแต่ถูกบูลลี่หน้าตา
หลังจากย้ายมาอยู่ แมนยูแต่แชดวิค Luke Chadwick ก็ยังทำผลงานได้ดี และกลายเป็น นักเตะในตำแหน่งปีก ของทีมในชุดเยาวชน ที่ทำผลงานได้อย่างดีมาก เขาใช้เวลา4ปีกับ การเล่นให้ทีมเยาวชน ในตำแหน่งปีก ที่จะกลายเป็นนักเตะที่
ขึ้นชุดใหญ่ได้ และเขาก็สามารถทำได้จริงๆ เพียงแค่ 4ปี แชดวิคก็ได้โอกาส ลงสนามใน ทีมชุดใหญ่ ด้วยการออกสตาร์ท เป็นตัวจริงใน เกมลีกคัพ ฤดูกาล 1999-2000 พบกับ แอสตัน วิลลา ด้วยวัยเพียง 18 ปี
แม้ว่าผลการแข่งขัน อาจจะไม่เป็นใจ เมื่อปีศาจแดง เป็นฝ่ายบุก ไปพ่ายถึง 3-0 ตกรอบไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็เป็น จุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับปีกดาวรุ่งผู้นี้ จนกระทั่งในฤดูกาล 2000-2001 ก็กลายเป็นซีซั่น ของเขา อย่างแท้จริง ราลฟ์-รังนิก
เมื่อปีกวัย 19 ปีในตอนนั้น ถูกใช้บริการ อย่างต่อเนื่องจาก เซอร์เฟอร์กี้ ทั้งในเกมลีก ลีกคัพ หรือแม้กระทั่ง รายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่าส่วนใหญ่แชดวิค จะถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรอง
แต่เขาก็ตอบแทน ความไว้ใจด้วย ลีลาการลากเลื้อย ที่น่าตื่นตา รวมทั้ง สามารถเล่นได้ ทั้งสองฝั่งของสนาม และซัดไปได้ถึง 2 ลูกในฤดูกาลนั้น จากการลงเล่น 22 นัดในทุกรายการ ในการลงมาเป็นตัวสำรอง
อย่างไรก็ดี แทนที่จะได้ รับเสียงชื่นชม ในฝีเท้า แต่เขา กลับเป็นเป้าโจมตี จากแฟนบอลคู่แข่ง จากสิ่งที่ติดตัว เขามาตั้งแต่เกิด นั่นคือ หน้าตาของเขา ที่ถูกบูลลี่จากแฟนคู่แข่ง อย่างหนักในช่วงเวลานั้น
เพราะช่วงเวลานั้น กับอายุเพียงแค่ 19ปีเขาควรจะ ได้มีช่วงเวลาที่ดี luke chadwick net worth และสามารถกลายเป็น นักเตะฝรเท้าดีที่ควรจะ มีช่อเสียงในวงการฟุตบอล แต่กับกลายเป็นว่า เขาโดนบูลลี่เรื่องของหน้าตา
ลุค แชดวิค อดีตนักเตะแมนยูที่ถูกบูลลี่ เป้าการโจมตีไม่เป็นเรื่องนอกสนาม
หากมองย้อนกลับไป ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสีเสื้อปีศาจแดง ของลุค แชดวิคคงจะเป็น ซีซั่น 2000-2001 premier league table เมื่อเขาได้ลงเล่น อย่างสม่ำเสมอ และร่วมป้องกัน แชมป์พรีเมียร์ลีก กับแมนยูไนเต็ด ได้สำเร็จ
โดยมีแต้มห่าง จากอันดับ2 อย่างอาร์เซน่อล ถึง 10คะแนน ทว่าในรายละเอียด อาจจะไม่ได้ เป็นเช่นนั้น เมื่อผลงานอันโดดเด่น กลับทำให้เขา ตกเป้าเล่นงาน จากแฟนบอล ที่ไม่ได้วิจาณ์เรื่องฝีเท้า แต่เป็นเรื่อง รูปลักษณ์ภายนอก
ในตอนนั้น แชดวิคเป็น เด็กหนุ่มวัยทีน หน้าเต็มไปด้วยสิว แถมฟันของเขา ยังยื่นออกมา มากกว่าปกติ และมันก็เป็นจุด ที่ทำให้ เขาถูกแซว ไปจนถึงถูกล้อเลียน จากกองเชียร์ คู่แข่งอยู่ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า มันสร้าง ความเจ็บปวดให้ แชดวิคมาก มันทำให้เขา รู้สึกวิตกกังวล และสูญเสียความมั่นใจ เขาไม่กล้า แม้กระทั่ง ออกจากบ้านไปซื้อของ ในตอนที่ไม่มีแข่ง และมีชีวิตนอกสนามไป กับการเก็บตัว อยู่ในที่พัก
และนิสัยส่วนตัว ของแชดวิคที่เป็น คนเงียบ และขี้อาย อาจทำให้ สถานการณ์ แย่ลงไปอีก เขาไม่ค่อย มีปาก มีเสียง จึงไม่ได้ บอกใครทั้งเซอร์อเล็กซ์ รุ่นพี่ หรือเพื่อนร่วมทีม รวมถึงครอบครัว
และเลือกจะปิดตัวเอง ด้วยการเก็บ เรื่องนี้ ไว้คนเดียว จนมันถูกทับถม จนกลายเป็น สิ่งบั่นทอนจิตใจ และมันส่งผลต่อ จิตใจของเขาโดยตรง เพราะเรื่องของการบูลลี่นั้น มันส่งผลต่อจิตใจ และสำคัญมาก สำหรับทุกคน
แชดวิคกับเป้าโจมตีที่เริ่มมากขึ้นจนเข้าสู่การบูลลี่เขาบนหน้าจอทีวีที่ทำให้เขาฟอร์มออกทะเล
โดยเรื่องเริ่มต้นขึ้น เมื่ออังกฤษถือ เป็นประเทศที่ พยายามทำกีฬา ให้เป็นความบันเทิง อย่างแท้จริง luke chadwick man utd ทำให้นอกจาก การแข่งขันในสนาม กีฬายังสามารถ นำมาใช้ เป็นวัตถุดิบ ในเกมโชว์ และหนึ่งในรายการที่โด่งดัง
ขณะนั้นคือ They Think It’s All Over มันคือรายการที่ ออกอากาศ ทางช่อง BBC มาตั้งแต่ปี 1992 โดยมี นิค แฮนค็อก นักแสดงตลกเป็นพิธีกรหลัก ร่วมด้วย แกรี ลินีเกอร์ ยอดนักเตะระดับตำนานของทีมชาติอังกฤษ
รูปแบบของ รายการคือ รายการตลก ที่มีการตอบ คำถามจากกีฬา ทว่าสิ่งที่เลวร้าย คือการนำ รูปลักษณ์ของลุค แชดวิคมาเป็น เกม หรือถูก พูดถึงใน แง่ความตลก ที่ลดทอน ความเป็นมนุษย์ หลายต่อ หลายครั้ง
แน่นอนว่ามันเรียก เสียงฮาครืน จากผู้ชม ทั้งในห้องส่ง และทางบ้าน แต่สำหรับแชดวิค เขาไม่ขำด้วย มันไม่สนุกเลย แถมการถูก นำมาล้อเลียน ในรายการที่มี ผู้ชมนับล้าน ทั่วอังกฤษ ยังทำให้เขา สูญเสียความมั่นใจมาก
หัวใจของนักเตะในวัยหนุ่มแหลกสลายหลังจากโดนฮีโร่ในวัยเด็กบูลลี่เขาในรายการ
แชดวิคพยายามเข้าใจ ว่ามันเป็น เรื่องปกติในฐานะ บุคคลสาธารณะ ที่มักจะถูกจับจ้อง แถมเขายังเป็น นักเตะของทีมดัง อย่างแมนยูไนเต็ด แต่ถึงกระนั้น มันก็ควรจะเป็น สิ่งที่เกิดขึ้น และจบไปในสนาม
ไม่ใช่ลามออกมา ถึงชีวิตส่วนตัว แต่สิ่งที่ทำให้เขา เจ็บปวดมากที่สุด คือการที่ แกรี ลินีเกอร์ luke chadwick they think it’s all ซึ่งเคยเป็นไอดอล ในวัยเด็ก ของเขา ก็ล้อเลียนรูปลักษณ์ ของเขาเช่นกัน เขาไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกผิดหวัง และหมดศรัทธา
กับที่ฮีโรที่ตน เคยนับถือ ที่ได้กลายมา เป็นผู้ย่ำยีหัวใจ ของเขาเอง แชดวิคบอกว่า เขารู้สึกแย่จนถึงขั้น คิดจะติดต่อ ไปที่ BBC ให้ยุติการพูดถึงเขา ในลักษณะนั้นเสียที แต่เขาก็ไม่ทำจน มันส่งผลเสียถึงผลงานในสนาม