รู้จักซนฮึงมิน มากขึ้น ซนอึงจองพ่อของซนฮึงมิน เรื่องราวของนักเตะที่เก่งสุดในเอเชียซนฮึงมิน
รู้จักซนฮึงมิน มากขึ้น ซนอึงจองพ่อของซนฮึงมิน นักฟุตบอล ซน ฮึ ง มิ น. เชื่อว่าแฟนบอลหลายคน น่าจะรู้จักกับ นักกีฬาอย่าง ซนฮึงมิน นักฟุตบอลชาว เกาหลีใต้ที่ กำลังค้าแข้ง อยู่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ให้ทีมอย่างสเปอร์
โดยซนฮึงมิน คือนักเตะที่ได้รับ การยอมรับคนหนึ่ง และถูกขนานนามว่า เก่งที่สุดในเอเชีย สามารถขึ้นไป ค้าแข้งสู้กับ นักเตะในยุโรปได้หลายคน ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จ ของนักเตะคนนี้ ต้องยกให้ซนอึงจอง
พ่อของซนฮึงมิน ที่แทบจะปูเส้นทาง การเป็นนักฟุตบอล ชั้นนำไว้ให้แล้ว ซึ่งหากมองถึง ประวัติและความสำเร็จ ของซนฮึงมินนั้น พ่อของเขาถือว่า เป็นส่วนช่วยที่ สำคัญอย่างแท้จริง เว็บของเราวันนี้จะพาไปดู
กับเส้นทางและ แนวคิดของ ผู้เป็นพ่อของซนฮึงมิน ที่มองรากฐาน และพัฒนาซนฮึงมินอย่างไร จนกลายเป็นนักเตะที่ เก่งที่สุดในเอเชียและ สามารถเล่นฟุตบอล ต่อกรกับนักเตะ จากทางยุโรปได้จน เป็นแข้งชั้นนำ อนิเมะ
ของ5ลีกใหญ่ของยุโรปได้ โดยซนอึงจอง แม้ว่าจะอยู่ในยุค ที่ฟุตบอลไม่ใช่ กีฬาที่โด่งดัง แต่เขาก็มีความฝัน เดียวเท่านั้น คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เด็กหนุ่มจากซอซาน ดินแดนทางตะวันตก ที่ห่างไกลของเกาหลีใต้
ยอมละทิ้งบ้านเกิด ตั้งแต่อายุ ไม่ครบ 15ปีไปสู่เมืองใหญ่ อย่างชุนชอน เพื่อเข้าโรงเรียน ที่มีการฝึกสอนฟุตบอล และเริ่มต้นความฝัน ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซนอึงจองสร้างชื่อ ในฐานะกองหน้าตั้งแต่ เป็นแข้งเยาวชน
ความรวดเร็ว และ แข็งแกร่งของเขา เป็นที่เลื่องลือ ซึ่งมันช่วยให้เขา ได้รับทุนเรียน ต่อในระดับมหาวิทยาลัย และเมื่อได้รับ ใบปริญญามา อึง จองตัดสินใจ เข้ารับการเกณฑ์ ทหารในทันที เพื่อให้หลังจากนั้น
เขาจะได้เดินหน้า เป็นนักฟุตบอล อย่างเต็มตัว ซึ่งในระหว่างที่ เกณฑ์ทหาร อึงจองได้รับเลือก ให้เป็นนักเตะ ภายใต้สังกัดของ ซังมู เอฟซี ทีมของกองทัพบก ประเทศเกาหลีใต้ และเป็น ซังมู เอฟซี ที่ทำให้อึงจอง
ได้สัมผัสกับ ประสบการณ์การแข่งขัน ฟุตบอลระดับอาชีพ เป็นครั้งแรก หลังจากใช้เวลา 2ปีกับ การเป็นแข้งทหาร ซนอึงจองก็ปลดประจำการ และเขาได้รับ สัญญาฉบับใหม่จาก ฮุนได ไทเกอร์ หรือ อุลซาน ฮุนได ในปัจจุบัน
ให้เข้าไปเป็น สมาชิกใหม่ ของสโมสร อึงจองมีช่วงเวลาที่ ยอดเยี่ยมใน ปีแรกกับ ฮุนได ไทเกอร์ ด้วยการได้ลงเล่น เป็นตัวจริง ในตำแหน่งกองหน้าของทีม ซึ่งด้วยทักษะ การจบสกอร์อันเฉียบคม
พร้อมกับความว่องไว ทำให้อึงจองได้ลงเล่น ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ ซน ฮึ ง มิ น. แฟน เก่า ชุดสำรองมาแล้ว และชีวิตการค้าแข้งของเขา กำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้วก็มีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งเกี่ยวกับสภาพ ร่างกายของเขาเอง
รู้จักซนฮึงมิน มากขึ้น ซนอึงจองพ่อของซนฮึงมิน สภาพร่างกายที่ไม่พร้อมในการเป็นนักบอล
โดยแม้จะไปได้ดี และมีสไตร์การเล่นฟุตบอล ซน ฮึ ง มิ น. ลิเวอร์พูล ที่โดดเด่น และเป็นประโยชน์ต่อทีมขนาดไหน แต่เพราะพื้นฐานไม่แน่น และร่างกายที่ไม่ได้ ถูกดูแล และถูกสร้างมาให้ มีความฟิตและ สภาพที่ดีพร้อมเล่นบอล
สไตร์ดุดัน ทำให้เขาเกิดอาการบาดเจ็บ บ่อยครั้ง เพราะหลังจาก เริ่มเล่นในลีกอาชีพ ไปได้เพียงแค่ 3ปี ร่างกายของ อึงจองในวัย 26ปี ก็เริ่มพัง เขาได้รับบาดเจ็บบ่อย และส่งผลกระทบต่อ ผลงานในสนาม
สุดท้ายจากหนึ่ง ในตัวเต็งผู้เล่น ทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ ที่จะถูกส่งไป ลุยศึกโอลิมปิก เกมส์ 1988 ที่กรุงโซลเป็นเจ้าภาพ ซนอึงจองกลับไม่ติด ทีมชาติไป และกลายเป็น จุดเริ่มต้นความล้มเหลว ของแข้งหนุ่มรายนี้
เขาพบว่าความสำเร็จ ของเขาใน การเล่นฟุตบอลมาจาก พรสวรรค์ด้าน ร่างกายไม่ใช่ทักษะ ในการเล่นฟุตบอล และเมื่อใช้ร่างกายหนักจน เริ่มพังและ บาดเจ็บบ่อยครั้ง ผลงานของของเขา ก็ตกลงแบบ น่าใจหาย แทงบอลออนไลน์
อึงจองถูกฮุนได ไทเกอร์ปล่อยตัว ออกจากทีมจนต้องย้าย ไปอยู่กับ ซองนัมเอฟซี ซึ่งไม่ได้ทำให้เขามี โอกาสลงสนาม เท่าไหร่นัก หลังจากที่กลายเป็น นักฟุตบอลระดับ ตัวสำรองอย่างเต็มตัว ด้วยวัยเพียง 28ปี
ซนอึงจองก็ประกาศ แขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ เพราะเขามองว่า ตัวเองไม่มีทาง ที่จะก้าวไปเป็น นักเตะระดับแถวหน้า ได้อีกแล้ว แม้จะมูฟออน จากวงการลูกหนัง ในฐานะผู้เล่น แต่ในความเป็นจริง
ฟุตบอลไม่หายไปจาก ซนอึงจองเขายังคง รู้สึกผิดหวังกับ ตัวเองอยู่ตลอด เรื่องการเป็นนักฟุตบอล อาชีพที่ล้มเหลว ความเจ็บปวดที่ ทำร้ายผู้ชายคนนี้ อยู่ตลอดคือ ความรู้สึกที่เขามองว่าตัวเอง
ไม่ได้มีเทคนิคฟุตบอล ที่ดีอะไร ซน ฮึ ง มิ น. แฟน ปัจจุบัน เพราะเมื่ออาการบาดเจ็บ พรากความเร็วไป อึงจองจึงมองว่าตัวเอง เป็นแค่แข้งธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษเลย มันเหมือนเป็นปมในใจ ทำให้ตั้งแต่นั้น เขาก็ชื่นชอบใน เทคนิคของการใช้เท้า
รู้จักซนฮึงมิน มากขึ้น ซนอึงจองพ่อของซนฮึงมิน พัฒนาซนฮึงมินในทุกสิ่งที่ซนอึนจองขาด
หลังจากการแขวนสตั้ด และใช้ชีวิตทั่วไป สิ่งที่ซนอึงจอง ทำบ่อยๆ และกลายเป็นงานอดิเรก คือใช้เวลาว่างไป กับการดูเทป นักฟุตบอลระดับโลกเสมอ โดยเฉพาะลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน ที่เขาชอบมากเป็นพิเศษ
เขาดูมันเพื่อ ศึกษาเทคนิคของ การใช้เท้าของ ฟุตบอลระดับโลก เทคนิคการควบคุมลูกฟุตบอล ในลักษณะต่างๆ เพื่อหวังว่า สักวันเขาจะได้สอน นักเตะรุ่นหลัง ให้มีความสามารถ มากกว่าที่เขามี
สิ่งที่อึงจอง ศึกษามา ไม่ได้เสียเปล่า ซน ฮึ ง มิ น. ทีม ปัจจุบัน เพราะหลังจากที่ลูกชาย ของเขาอย่าง ซนฮึงมินยืนยันว่า อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อึงจองจึงทุ่มเททุกอย่าง ที่เขาศึกษามา ให้กับลูกชายด้วยประสบการณ์
ผสมกับ การหาความรู้ เพิ่มเติม สิ่งสำคัญที่ เขาให้ความสำคัญ มากที่สุดคือ การฝึกการใช้ เท้าในการควบคุม ลูกฟุตบอล การยิงประตู การเคลื่อนที่ หาช่องว่าง และการไปกับลูกฟุตบอล และร่างกายต้อง ได้รับการดูแล
รวมถึงรักษาเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ ซนผู้เป็นพ่อสั่ง ลูกชายของเขา ให้เดาะบอล หลายชั่วโมง ติดต่อกัน เพราะเขาอยากมั่นใจ ว่าลูกชายของ เขาจะไม่โต ไปเป็นแข้งไร้เทคนิค ไร้ลีลา ริคาร์โด้-กาก้า
จนไปไม่รอด ในสังเวียนฟุตบอลอาชีพ การฝึกเบสิกทักษะ ในการเล่นฟุตบอล คือหัวใจสำคัญของการเป็น นักฟุตบอลที่ ซนอึงจองยึดมั่น มาตลอด แม้แต่ในปัจจุบัน ที่เขาเปิดอคาเดมี ฟุตบอลของตัวเอง
เพื่อฝึกเด็กๆ รุ่นใหม่ให้พร้อมไป ค้าแข้งในยุโรป หรือพัฒนาให้ได้ แบบซนฮึงมิน เขายึดหลักเดิมคือให้เด็กๆ ฝึกแค่การสร้าง ทักษะการเล่น ฟุตบอลเท่านั้น และจะไม่ให้เด็กๆ ลงเล่นแบบเป็นทีม จนกว่าจะอายุ 15ปี
เหตุผลและการวางรากฐานจากความคิดของซนอึนจอง ต่อแนวทางฟุตบอลและการพัฒนาเหล่าเด็กรุ่นใหม่
โดยทางซนอึนจอง ได้กล่าวความคิด ของเขาเอาไว้ว่า สำหรับทีมระดับโรงเรียน พ่อแม่และสโมสรบางแห่ง ที่ให้เด็กลงทีม แข่งตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ได้เกี่ยวกับ การพัฒนาเด็ก ในฐานะนักเตะ แต่พวกเขาสนใจ
แค่การเอาชนะในเกม และการแข่งขัน ในระดับท้องถิ่น มากกว่าจะไปโฟกัส ซนฮึงมิน จีซู ที่การพัฒนาของ เด็กตั้งแต่พื้นฐาน เราจะไม่ให้เด็กยิงบอล ก่อนอายุครบ 15 ปี ทำไมน่ะหรอ มันจะทำลายเส้นเอ็น และข้อต่อกระดูก ที่เท้า
ของพวกเขาไง เพราะพวกเขา ยังไม่โตเต็มวัย ซนฮึงมินเองก็ผ่าน การฝึกแบบนี้มา และนั่นคือเหตุผล ที่ผมไม่ส่งลูกชาย ลงแข่งทีม ตั้งแต่อายุยังน้อย มันคือปรัชญา เดียวกับที่ผม นำมาใช้กับเด็กในอคาเดมี
อีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งให้ ซนฮึงมินกลายเป็นนักเตะชั้นนำ และจะเก่งขึ้นไปมากขึ้นยิ่งกว่านี้แน่นอน
อีกหนึ่งแนวทาง ที่ซนอึงจองพยายาม ปลูกฝังให้ กับเด็กทุกคน นั่นคือแนวคิด ที่อยากพัฒนา ตัวเองอยู่ตลอดเวลา และอย่าคิดว่า ตัวเองเก่งแล้ว เพราะหากนักฟุตบอล คิดว่าตัวเอง ยังเก่งไม่พอ ก็จะอยากพัฒนา ฝีเท้าไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าไปคิดว่า ตัวเองพอใจแล้ว นักเตะก็จะไม่สนใจ ซน ฮึง-มิน ค่าตัว การพัฒนาทักษะ ให้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายก็จะ พบว่าสิ่งที่มี อยู่ไม่พอกับ การเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว แม้แต่ซนฮึงมินเอง พ่อเขาก็ยังมองว่า ไม่ควรหยุดฝึกซ้อม
และต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ซึ่งความเชื่อนี้ ก็ส่งตรงมาจากประสบการณ์ จริงของซนอึงจอง ที่พลาดที่ไม่ได้ ทุ่มเทให้กับ การฝึกซ้อมและ พัฒนาตัวเองมากพอ จนกลายเป็น ความเจ็บปวดของเขา มาจนถึงทุกวันนี้