มหาเทพโอริกี้ มหาบุรุษบุตรแห่งแอนฟิลด์ อีกหนึ่งนักเตะคนสำคัญของทีม
มหาเทพโอริกี้ มหาบุรุษบุตรแห่งแอนฟิลด์ หากพูดถึงฉายานี้ เชื่อว่าแฟนบอล จะต้องนักถึงนักเตะคนเดียว ที่เป็นนักเตะคนสำคัญของทีม ในตำแหน่งตัวสำรอง ที่แฟนบอลทุกคนต่างก็ หลงรักในนักเตะคนนี้
นี้คือ ดีว็อค โอริกี้ นักเตะตัวสำรอง ของสโมสรลิเวอร์พูลที่เป็น นักเตะคนสำคญที่ มักจะลงไปช่วยทีม ที่แฟนบอลมักจะไว้ใจ ในเกมสำคญและช่วงเวลาสำคัญ โดยเฉพาะกับ ตัวของผู้จัดการอย่าง เจอร์เก็น คล็อปป์ เอง
ที่มักจะเลือกใช้นักเตะคนนี้ ลงมาเป็นตัวสำคญ ในช่วงเวลาสำคัญและ นักเตะคนน้มักจะ ทำประตูในช่วงเวลาที่สำคัญ ที่ทีมต้องการ การทำประตูและ อยากจะได้สกอร์สำคญ นี้คือนักเตะที่ทั้ง ผู้จัดการ เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล
ต่างไว้ใจและ ให้ความเชื่อใจ ว่าจะต้องลงมาช่วยทีมได้อย่างแน่นอน เพราะนี้คือ นักเตะ ที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ มหาเทพ Pantip และหากได้นั่งสำรอง นานๆ ได้ลงสนามที ก็ไม่ได้มีความไม่พอใจ หรือทุ่มเทให้กับ การเล่น การซ้อมน้อยลงเลย
โดยเว็บของเราจะ พาไปรู้จักกับเส้นทาง การค้าแข้งและ เรื่องราวที่น่าสนใจ ของนักเตะแห่งแอนฟิลด์คนนี้ โดยพ่อแม่ของโอริกี้ เป็นชาวเคนยา ไมค์ โอโกธท์ โอริกี้ พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีฝีเท้าดีคนหนึ่ง
ที่เคยเล่นให้กับสโมสร อุสเตนด์ และนั่นทำให้ครอบครัว ได้ย้ายมาอยู่ที่ ประเทศเบลเยี่ยม และ ดิว็อคคือ ลูกไม้ใต้ต้นอย่างแท้จริง โดยตัวของโอริกี้ เริมต้นฝึกฟุตบอลจริงๆ จังๆ ตั้งแต่อายุได้เพียง 5 ขวบ ดูซีรี่ย์
ด้วยการเข้าทีม KDFC De Zuwaluw Wiemesmeer และร่างกายแบบ แอฟริกันทำให้ เขาเก่งกว่าเด็กๆ ทุกคนในรุ่นเดียวกัน การเจริญเติบโตของ โอริกี้ถือว่าไวกว่า เด็กทั่วไป ไมค์ ผู้เป็นพ่อเผยว่า
ร่างกายของเขามี การเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่อายุ 6ขวบ และเป็นเช่นนั้นเรื่อยมา ในการแข่งรุ่นจูเนียร์ พ่อของเขาเล่าเรื่องราว ลูกยิง โอ ริ กี้ หลังจากความเก่งเกินวัยนั้น ว่ามีทีมดังของ ประเทศที่อยู่ ห่างบ้านของเขาเพียง 2 ชั่วโมงอย่าง เกงค์
สโมสรชื่อดังของเบลเยี่ยม ดึงไปเข้าทีมอคาเดมี่ตั้งแต่ 9ขวบ ช่วงที่อยู่กับ เกงค์นั้น ในตอนแรกโอริกี้ ได้เริ่มเล่นใน ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ก่อนถูกผลักดัน ให้เป็นนักเตะตำแหน่ง กองหน้าตอนอายุ 14ปี
หลังจากนั้นเพียงปีเดียว การเปลี่ยนตำแหน่ง ก็ทำให้เขาเข้าตาทีม จากฝรั่งเศสและ ได้ย้ายประเทศตั้งแต่อายุ 15ปี เมื่อลีลล์ คว้าตัวไปร่วมทีม เพื่อไปเล่นให้กับทีมชุด เยาวชนและ ให้สัญญากับนักเตะ เยาวชนคนนี้ไว้อย่างดี
มหาเทพโอริกี้ มหาบุรุษบุตรแห่งแอนฟิลด์ เป็นนักเตะครบเครื่องและอนาคตของลีลส์
ด้วยกาาเป็นนักเตะ ที่มีสภาพร่างกาย ที่ดีมาตั้งแต่เด็ก การย้ายไปลีลส์คือ การพัฒนาที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะด้วยการไป ฝึกฝีเท้า และพัฒนาใน ลีลส์ทำให้เขามีชื่อเสียง และลีลส์ก็เป็นทีมปั้นเยาวชนชื่อดัง
ที่มีการดูแลนักเตะ เยาวชนที่ดีเป็นอย่างมาก ดูได้จากการที่ แฟนบอลส่วนใหญ่ น่าจะเคยได้ยิน นักเตะที่โด่งดังจากลีลส์ ฉายาโอริกี้ หลายคนในช่วงเวาลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่เล่นกับลีลล์นั้น โอริกี้ได้ฉายาว่า เบบี้ ไคลเวิร์ต
นั่นหมายถึง การหาโอกาส จบสกอร์ที่เก่งกาจเหมือนกับ แพททริก ไคลเวิร์ต ตำนานทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เคยย้ายมาเล่นกับ ลีลล์ในช่วงสั้นๆ ส่วน โอริกี้ถูกยกให้เป็น ตัวอนาคตของสโมสร เพราะเขาเล่นแบบ แบกอายุมาโดยตลอด
ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง เขาสามารถวิ่งและแข่งขันกับ เด็กที่อายุมากกว่าเขา 2ปี ได้สบายๆ โอริกี้ยิง 10 ประตูจาก 19เกม ให้ทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดยู19 ตอนเขาอายุ 17ปีเท่านั้น ช่วงเวลาดังกล่าว UFABET
โอริกี้เคยโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาทาบทามด้วย ทว่าเขาเลือก ที่จะอยู่กับ ลีลล์ต่อไปเพราะเห็นโอกาส พัฒนาตัวเองที่มากกว่า เมื่ออายุได้ 18ปี ลิเวอร์พูลส่งแมวมอง มาติดตามฝีเท้าของ โอริกี้อยู่เรื่อยๆ
แต่พวกเขายังค้างคาใจ ว่าเด็กคนนี้ จะสามารถรับมือ กับความกดดันใน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ และโชคดีมากที่ หลังจากจบฤดูกาล 2013-14 นั้นมีรายการใหญ่อย่าง ฟุตบอลโลกรออยู่ ซึ่ง โอริกี้ในวัย 19 ปี
ติดทีมชาติเบลเยี่ยมไปแข่ง ณ เวลานั้นด้วยทั้งๆ ที่เขาไม่เคยมี ส่วนร่วมแม้แต่วินาทีเดียว ในการแข่งขันรอบคัดเลือก มหาเทพเวลเบ็ค และเขาสามารถยิงประตูชัยให้เบลเยี่ยมเอาชนะ รัสเซีย ไป 1-0 ในเกมที่มาราคาน่า
และประตูนั้นคือ เหตุผลที่ลิเวอร์พูล ตัดสินใจเซ็นสัญญาเขา ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 10ล้านปอนด์ และลูกยิงลูกนั้น ยังถูกบันทึกว่าเป็น ลูกยิงของนักเตะอายุน้อยที่สุด ของเบลเยี่ยมที่สามารถยิงได้ในบอลโลก
มหาเทพโอริกี้ มหาบุรุษบุตรแห่งแอนฟิลด์ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลที่เหมือนจะอนาคตดับ
โดนหลังจากทำการซื้อขาย เรียบร้อยกันแล้วนั้น การมาของโอริกี้ นั้นมาช้ากว่ากำหนด 1ปี เพราะลิเวอร์พูล ปล่อยตัวเขา ให้กับลีลล์ ยืมตัวใช้งานต่อไปก่อน ดังนั้นเมื่อครบ 1 ปีและเขากลับเข้ามาสู่รั้วแอนฟิลด์
ปรากฎว่ากุนซือลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนมือไปแล้วจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็น เจอร์เก้น คล็อปป์ สไตล์การทำทีมของคล็อปป์ ลิเวอร์พูล นั้นเป็นลายเซ็นของเขา มาตั้งแต่สมัยคุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
นักเตะเกมรุกของเขา ต้องเป็นคนที่มี เทคนิคล้ำเลิศ คล่องแคล่ว ในพื้นที่สุดท้าย และจบสกอร์เฉียบขาด ซึ่งฝีเท้าของโอริกี้ ในช่วงเวลานั้นไม่สามารถ ทำหน้าที่ดังกล่าว ได้แบบเต็มประสิทธิภาพนัก แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์
เขายังเด็กเกินไป และยังทำอะไร ไม่ได้มากกว่าการรอเข้าฮอร์สยิงประตู ฉายาของเขา ไม่มีความหมายที่แอนฟิลด์ พรีเมียร์ลีก โดยโอกาสการลงเล่นถือว่าส่วนใหญ่ ต้องรับบทตัวสำรอง เขาหลุดเป็นตัวสำรอง ตัวเลือกท้ายๆ ตลอด
เขาถูกส่งไปให้ โวล์ฟส์บวร์ก ยืมตัวในฤดูกาล 2017-18 ซึ่งผลออกมา ก็คือเจ๊งอีกราวกับ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เขายิงได้แค่ 6ประตูจากการลงสนาม 34นัด และโวล์ฟส์บวร์ก ก็ปฎิเสธจะใช้ออพชั่น ดังกล่าวทิ้งไปแบบไม่ใยดี
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของโอริกี้กับ สโมสรลิเวอร์พูลที่เกือบจะทำให้เขาหมดอนาคต
ฤดูกาล 2017-18 ถือเป็นปีที่เลวร้าย มีข่าวลือหนาหูว่า เขาจะไม่ได้ไปต่อ เพราะลิเวอร์พูลกำลัง จะขายเขาทิ้ง ในช่วงหลังฤดูกาล ปิดตัวลง ช่วงเวลานั้น ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับโอริกี้ ต่างก็ออกมาเรียกร้องว่า
เขาควรจะได้รับ โอกาสมากกว่านี้ หรือไม่ก็ได้ ย้ายไปอยู่กับทีม ที่พร้อมจะมอบ ตำแหน่งตัวจริงให้ เปิดฤดูกาล 2018-19 ด้วยความยากลำบากอย่างที่ใครต่อใคร คาดเดาไว้โอริกี้ ต้องรอโอกาสถึง 4เดือน
กว่าจะได้ลงเล่น ในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก โดยในจำนวนเกม ทั้งหมดนั้น เขามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองเพียงแค่ 2จาก 13เกม วัน แห่ง ทวย เทพ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เล่นเลย แม้แต่วินาทีเดียว ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาต้องลงไปเล่น ให้กับทีมสำรอง
เป็นครั้งคราว เรียกได้ว่าแทบ มองไม่เห็นโอกาสการกลับมาเฉิดฉาย ในทีม 11 ตัวจริงได้เลย ณ ช่วงเวลานั้น จนทั้งพ่อและ เอเยนต์ของเขาออกมาโจมตี สโมสรลิเวอร์พูลที่ ไม่ให้โอกาสและ ขายโอริกี้ในราคาที่แพงเกินไป
โอริกี้นักเตะที่แฟนบอลรักที่ ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้และพร้อมลงสนามช่วยทีมเสมอ
โดยแม้ทางพ่อและ เอเยนต์จะออกมาให้ข่าว ว่ายังไงก็ตาม แต่ทางตัวของโอริกี้ ก็ไม่เคยงอแงและ ยอมแพ้แม้แต่สักครั้ง เขายังพร้อมลงเล่น และทุ่มเทเต็มที่ ให้กับการซ้อมและ ทุกการแข่งขันที่เขาได้ลงเล่น
และวันนี้เจ้าตัวได้เฉิดฉาย ก็มาถึงในนัดที่เจอกับ บาร์เซโลน่า จากการตามหลัง เพื่อชนะมากกว่า 4ประตูเพื่อผ่านเข้ารอบ Divock Origi และไม่มีใครเชื่อว่านักเตะตัวสำรองคนนี้ จะสามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างดี