ประวัติริวัลโด้ นักเตะชาวบราซิลที่คนบราซิลไม่ชอบ ตำนานนักเตะชาวบราซิล

ประวัติริวัลโด้ นักเตะชาวบราซิลที่คนบราซิลไม่ชอบ ริวัลโด้ บัลลงดอร์ นี้คือนักเตะที่เคยได้บัลลงดอร์ และมีความสำเร็จกับ โทรฟี่และถ้วยรางวัลมากมาย ในเรื่องของฝีเท้า ได้รับการยกย่อง และ ยอมรับให้เป็นหนึ่งใน 3R ของทีมชาติบราซิล

นี้คือนักเตะที่มีฝีเท้าดี และประสบความสำเร็จแต่ เพราะอะไรทำไมมีหลายคน ที่มองเขาในมุมอีกมุมหนึ่ง ไม่ชอบเขา และบอกว่าฝีเท้าของเขา ไม่สุดและ ยังไม่เป็นที่ยอมรับ และทำไม แฟนบอลส่วนใหญ่ถึงไม่ชอบริวัลโด้

ทำไมแฟนบอลบราซิล ที่เขาพาไปคว้าแชมป์โลก กับไม่ชอบเขาอะไรคือ สาเหตุบทความของ เว็บเราจะพาไปเจาะลึก ถึงประวัติเส้นทาง และรูปแบบนิสัยใจคอ และสาเหตุอะไรที่ ทำให้เขาไม่เป็นที่ยอมรับ ดูซีรี่ย์

โดยริวัลโด้นั้นเขาก็เหมือน นักเตะชาวอเมริกาใต้ส่วนใหญ่ ที่มาจากครอบครัว ฐานะยากจน โดยเขาคือลูกคนกลาง ในจำนวนพี่น้อง ห้าคนที่เติบโต ขึ้นมาในสลัม ชานเมืองเรซิเฟ รัฐเปอร์นัมบูโก

ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของบราซิล และต้องทำงาน ช่วยเหลือครอบครัว มาตั้งแต่เด็ก ในทุกสุดสัปดาห์ ริวัลโด้ จะต้องตามพ่อแม่ ไปรับจ้างตัดหญ้า ไปจนถึงเร่ขาย หมากฝรั่ง และไอศกรีมแท่ง ตามชายหาด ของเมือง

ครูของเขาบอกว่า ริวัลโด้เป็นเด็ก ที่ค่อนข้างขี้กลัว และประหม่าทุกครั้ง เมื่อถูกเรียก ให้อ่านออกเสียง แต่ความประพฤติ โดยรวมก็ยัง ดีกว่าพี่ชายทั้ง สองคนของเขา ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขาค่อนข้างมั่นใจ

นั่นก็คือการเล่นฟุตบอล เขาชอบเล่นฟุตบอลเท้าเปล่ามาก โดยมี เปเล่ และ ดิเอโก มาราโดนา เป็นไอดอล ทั้งนี้เพื่อนของเขา บอกว่าริวัลโด้ เป็นนักเตะที่ เก่งที่สุดในกลุ่มเสมอ มีการครองบอลที่เหนียวแน่น

และยิงประตูได้รุนแรง ทั้งที่มีรูปร่างผอมบาง ตั้งแต่สมัยเด็กโดย นอกจากเรียนและทำงาน เวลาส่วนใหญ่ของเขา หมดไปกับการเล่นฟุตบอล จนกระทั่งตอนอายุ 13 ปีริวัลโด้ ก็ไม่ต้องเล่นฟุตบอลเท้าเปล่าอีกต่อไป

เมื่อ โรมิลโด พ่อของเขา ซื้อสตั๊ดคู่แรกให้ เป็นของขวัญ Rivaldo ig และหลังจากนั้น เขาก็พัฒนาฝีเท้า อย่างต่อเนื่อง จนถูกสโมสรซานตาครูซ สโมสรในท้องถิ่น ที่ริวัลโด้เตะบอล ชวนไปทดสอบฝีเท้าในอีก 3ปีต่อมา

ประวัติริวัลโด้ นักเตะชาวบราซิลที่คนบราซิลไม่ชอบ เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้ง

หลังจากเล่นฟุตบอล มาอย่างยาวนาน ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จนอายุได้16ขวบปี ทางสโมสรซานตาครูซ สโมสรท้องถิ่นแถวบ้านของ ริวัลโด้จึงเกิดความสนใจ ให้มาทดสอบฝีเท้า กับทางสโมสร ซึ่งก็เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี

แต่ว่ากับเกิดเหตุการณ์ ที่เป็นเหตุการณ์สำคัญ ในอนาคตของริวัลโด้เลยก็ว่าได้ เพราะก่อนผลการคัดตัว จะประกาศไม่กี่วัน พ่อของเขาก็มาประสบอุบัติเหตุ ถูกรถโดยสาร ประจำทางชนจนเสียชีวิต

และความสูญเสีย ครั้งนี้ก็ทำให้ เขาคิดเลิกเล่นฟุตบอล เพราะรู้สึกจำนน ต่อโชคชะตาว่า ความสุขและความสำเร็จ คงจะไม่ได้มีไว้สำหรับเขา และเมื่อขาดคน สนับสนุนรวมถึง เป็นหัวใจหลักของครอบครัว เจมมี่-วาร์ดี้

ทำให้เขาต้องมองเส้นทางใหม่ อีกครั้งว่าจะไปต่อกับฟุตบอล หรือทำงาน ช่วยเหลือครอบครัว แต่แม่ของริวัลโด้ ที่รู้ดีว่า ลูกชายของเธอ รู้สึกอย่างไร เพราะเธอเองก็ รู้สึกไม่ต่างกัน กับความสูญเสียครั้งนี้

จึงได้นั่งลงและ เปิดอกคุยกับ เขาว่าจงเล่นฟุตบอลต่อไป อย่างน้อยก็ทำ เพื่อพ่อที่ตายไป หลังเสร็จสิ้นงานศพ ครอบครัวของริวัลโด้ ก็ได้รับข่าวดีบ้าง เมื่อการคัดตัว เป็นไปด้วยดี และริวัลโด้ก็ได้เป็นนักเตะเยาวชน

ของซานตาครูซ ทว่านั่นก็เป็น เพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะไม่นาน ความท้าทายใหม่ ของเขาก็เริ่มต้นขึ้น เนื่องจากซานตาครูซ ไม่ใช่สโมสรใหญ่ ทำให้เขาได้เงินเพียงน้อยนิด แถมสนามซ้อมของทีม

ยังอยู่ห่างจาก บ้านเขาถึง 15 กิโลเมตร ทำให้ริวัลโด้ ต้องเดินไปกลับ เป็นระยะทาง รอ นั ล ดี น โย ประวัติ รวมถึง 30 กิโลเมตรทุกวัน เขามาถึงสนามซ้อม ด้วยความเหนื่อย และกลับไปด้วย ความเหนื่อย บวกกับร่างกายที่ผอมบาง

และฟันที่หลุดเกือบหมดปาก จากภาวะขาดสารอาหารมาตั้งเด็ก ทำให้เขาดูอ่อนแอ เกินกว่าจะเป็น นักเตะอาชีพได้ แต่เขาก็พยายามจนสามารถ เป็นนักเตะอาชีพและลงช่วย สโมสรซานตาครูซได้

ประวัติริวัลโด้

ประวัติริวัลโด้ นักเตะชาวบราซิลที่คนบราซิลไม่ชอบ ย้ายไปค้าแข้งในยุโรป

หลังจากเริ่มต้น เป็นนักเตะตัวจริงของ สโมสรซานตาครูซและ ทำผลงานกับฤดูกาลแรก พอใช้ได้ กับผลงานยิง 8ประตูจาก 18เกมและฤดูกาลถัดมา ด้วยความเป็น นักเตะที่ยังมีประสบการณ์ไม่มาก

จึงทำให้เขามีปัญหา ในเรื่องของฟอร์มไม่คงเส้นคงว่า บวกกับการที่ทีมไม่สามารถ ลื่นชั้นในลีกได้ ทำให้เขากลายเป็น เป้าโจมตี ของแฟนบอลทีมตัวเอง ทำให้สโมสรเลือกไล่เขา ไปเล่นให้สโมสรอื่นในระดับ2

เขาทำผลงานช่วยทีม ได้เป็นอย่างดีด้วยการยิงไปถึง 22 ประตูจาก 58 นัด จนได้รับรางวัล Bola de Ouro หรือรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปี พร้อมทั้งถูกเรียก ติดทีมชาติ แถมยังประเดิมประตูแรกได้ทันที ริวัลโด้ pantip ในเกมพบกับเม็กซิโก

ผลงานดังกล่าวทำให้ในปี 1994 พัลไมรัส ตัดสินใจกระชากตัว ริวัลโด้ไปรวมทัพ ก่อนที่เขาจะตอบแทนสโมสร ด้วยการช่วยให้ ทีมคว้าแชมป์ซีรีส์ เอ ได้อย่างยิ่งใหญ่ และทำให้เขาได้รับรางวัล Bola de Ouro มานอนกอดอีกหนึ่งสมัย

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้รับ การยอมรับจากแฟนบอลเท่าที่ควร ทั้งสโมสรและในเกมทีมชาติ โดยเฉพาะในเกมทีมชาติ ที่เขามักจะเป็น เป้าโจมตี ของคนบราซิลทั้งชาติ ทั้งจากแฟนบอล รวมถึงนักข่าวอีกด้วย

การดุด่าว่ากล่าว อย่างโหดร้ายทำให้ ริวัลโด้ รู้สึกพอแล้ว กับการเล่นในบราซิล อันดับ บัลลงดอร์ สุดท้ายกลายเป็น เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ทีมในลาลีกา สเปน ที่ได้สิทธิ์เป็นสโมสรแรกของเขาในยุโรป

และเพียงแค่ปีเดียวที่นั่น เขาก็พิสูจน์ว่า เขาคือของจริง ด้วยการยิง 21 ประตูจาก 41นัด และช่วยให้ทีมจบ ในตำแหน่งกลางตาราง เขาคือเดอะแบกของทีม ลาคอรุนญา ในตอนนั้น เขาเป็นนักเตะกองหน้า ที่ถูกพูดถึงมาก

มีชื่อเสียงมากขึ้นในประเทศสเปน ในฐานะกองหน้าจอมเทคนิคที่จบสกอร์ได้หลายรูปแบบ

เขาโดดเด่นอย่างมาก ด้วยเทคนิค การทำประตูที่หลากหลาย รางวัลบัลลงดอร์ ทั้งหมด แม้จะไม่ใช่ศูนย์หน้า โดยธรรมชาติ แต่ริวัลโด้ ก็ยิงได้ทุกแบบ ทั้งลูกชาร์จจ่อๆ ลูกโหม่ง ฟรีคิกโค้งข้ามกำแพง ไปจนถึงจุดโทษแบบปาเนนก้า

ที่ในยุคนั้น ยังไม่ค่อยมี ใครกล้าทำ แต่สำหรับในบ้านเกิด ดูเหมือนว่าแสง จะยังไม่ฉาย มาที่เขา เพราะแม้จะ ทำผลงานได้โดดเด่น เพียงใด แต่การเล่นให้ กับลาคอรุนญา ก็ไม่ได้ทำให้ เขาได้รับความสนใจ จากชาวบราซิล

เนื่องจากทีวีบราซิล เลือกที่จะโฟกัสกับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า เท่านั้น นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ริวัลโด้ตกปากรับคำ ย้ายไปเล่นให้กับบาร์ซ่า ในฤดูกาลต่อมา ด้วยค่าตัวถึง 4,000 ล้านเปเซตา หรือราวๆ 24 ล้านยูโร

ผลงานกับบาร์เซโลน่าที่ส่งให้เขากลายเป็นนักเตะระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอลทั่วโลก

ตลอด 5 ฤดูกาลในถิ่นคัมป์ นู ริวัลโด้ ซัดไป 129 ประตูจาก 235นัด ช่วยให้บาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีกา 2สมัย, โคปา เดลเรย์ 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1สมัย และก้าวขึ้นไป คว้ารางวัลบัลลงดอร์ ในปี1999

พ่วงด้วยนักเตะ ยอดเยี่ยมแห่งปี ของฟีฟ่าในปีเดียวกัน รางวัลบัลลงดอร์ 2021 แต่ถึงอย่างนั้นเขา ก็ไม่ได้รับการยอมรับ ยามกลับไปเล่น ให้กับทีมชาติ แฟนบอลชาวบราซิล มองว่าเขาทำผลงาน ได้ดีแค่ในสีเสื้อของบาร์ซ่า

แถมบางครั้ง ยังโดนดูถูกเมื่อ ทำผิดพลาดตอนเล่นให้กับบราซิล และมักจะตกเป็นเป้าทุกครั้ง กับทีมชาติ ยิ่งในฟุตบอลโลก 2002 ที่เขาก็เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญกับ ทีมชาติแต่เขาก็ยังโดนต่อว่า และอคติอยู่เสมอจนปัจจุบัน