นักเตะตำนานอียิปต์ มิโด้นักเตะตำนานฟุตบอลอียิปต์ ราชาแห่งอิยิปต์ตำนานนักเตะสัญชาติอียิปต์

นักเตะตำนานอียิปต์ มิโด้นักเตะตำนานฟุตบอลอียิปต์ ข้อมูล ทีม อียิปต์ เรื่องราวของอดีตนักเตะชาวอียิปต์ ที่เคยเป็นนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรง ที่เป็นความหวังของอียิปต์ และเป็นที่จดจำของเหล่า ประชาชนและแฟนบอลชาวอียิปต์

โดยเราจะพาไปดู เรื่องราวของนักเตะ ที่ในช่วงเวลาหนึ่ง นี้คือดาวรุ่งและ นักเตะที่ได้รับการยอมรับคนหนึ่ง แต่ชีวิตกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะเขาไม่สามารถไปได้ไกลถึงฝัน และไม่สามารถกลายเป็นแข้งระดับท็อปได้

โดยนี้คือเรื่องราวของยอด นักเตะแห่งอียิปต์ ที่มีชื่อว่ามิโด้ โดยมิโด้นั้น มีชื่อเต็มจริงๆ ว่า อาเหม็ด ฮอสซัม ฮุสเซน อับเดลฮามีเกิด และเติบโตที่กรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ อันที่จริงเขาเป็นแข้งที่น่าจับตา มาตั้งแต่วัยละอ่อน

หลังยิงประตูได้ทันที ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ที่ลงสนามให้ ซามาเล็ค ยอดทีมในลีกสูงสุดในฤดูกาล 1999 ด้วยวัยเพียง 16ปี ฝีเท้าที่โดดเด่น ทำให้เขาได้รับ ความสนใจจาก สโมสรในต่างประเทศ อนิเมะ

และในปีต่อมา เขาก็ได้ย้าย ไปอยู่กับเกงค์ ทีมจากลีกเบลเยียม ก่อนจะตอบแทน สโมสรด้วยการยิงไปถึง 11ประตู จาก 21นัดในลีก และมันไม่ได้หยุดแค่นั้น เมื่อผลงานของเขา ไปเข้าตาแมวมองของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม

ทีมจากเนเธอร์แลนด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่อง การปั้นเด็ก จนทำให้เขา ได้เข้ามาเล่นใน ถิ่นอัมสเตอร์ดัม อารีนา ในปี2001 ปีเดียวกันกับ เด็กหนุ่มร่างโย่งจากสวีเดนที่ชื่อว่า สลาตัน อิบราฮิโมวิช เข้ามาสู่ทีมในปีแรก

โดยในฤดูกาลแรกของ มิโด้และ สลาตันนั้น มิโด้ ที่อายุน้อยกว่า ทำผลงานแซงหน้าสลาตัน ด้วยการซัดไปถึง 12ประตูจาก 24นัด สลาตันยิง 6ประตูจาก 24นัด โดยเฉพาะ 9นัดสุดท้าย ที่มิโด้เขายิงไปถึง 10ประตู

พร้อมช่วยให้ อาแจกซ์คว้าแชมป์ลีก และฟุตบอลถ้วย จนได้รับฉายาจาก แฟนบอลว่าราชาแห่งไคโร และการเชิดชู ก็ไม่ได้หยุด อยู่แค่ในสนาม เมื่อได้รับการยอมรับ จากฟุตบอลยุโรป

ทำให้มิโด้ ที่เป็นเหมือนสตาร์ ของอียิปต์อยู่แล้วได้รับการยกย่อง ขึ้นไปอีก ทุกครั้งที่กลับมา ที่ประเทศอียิปต์เขา มักจะถูกห้อมล้อม ไปด้วยกองทัพนักข่าว และแฟนบอลไม่ต่าง จากดาราฮอลลีวูด

ความดังของเขา ยังวัดได้จากการ ปรากฏตัวอยู่ในหน้าบันเทิงของสื่อ นักเตะแคเมอรูน แทบลอยด์ระดับประเทศอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น งานแต่งงานของเขา ยังถูกถ่ายทอดสด ไปทั่วประเทศอียิปต์ พร้อมทำลายสถิติด้วย ยอดผู้ชมสูงสุด ในปีดังกล่าว

นักเตะตำนานอียิปต์ มิโด้นักเตะตำนานฟุตบอลอียิปต์ นักเตะที่มีความมั่นใจที่มากเกินไป

หลังจากทำผลงาน ในฤดูกาลแรกได้ เป็นอย่างดีเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลที่2 ดูเหมือนว่าชีวิต ของมิโด้กับอาแจกซ์ ก็ยังคงหอมหวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า โดยเฉพาะใน ช่วงต้นซีซั่นที่ ดาวยิงจากอียิปต์ กระซวกตาข่ายคู่แข่ง

ไปได้ถึง 9ประตูจาก 16นัด หรือเฉลี่ย 2นัดต่อประตู ทว่าทุกสิ่งก็ เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน 2002 เมื่อเขาออกมา ให้ข่าวว่าอยากจะ ย้ายออกจากทีมอาแจกซ์ นักเตะอียิปต์ วันนี้ ในช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาว ที่กำลังจะมาถึง

แม้ว่าในตอนนั้น มิโด้จะทำผลงาน ได้อย่างเปรี้ยงปร้าง ด้วยการทำไป 2ประตูกับ 2แอสซิสต์ แต่การออกมาพูดแบบนี้ แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ และทำให้เขาถูกแบน และปรับเงินจากสโมสร สตีเฟ่น ไอร์แลนด์

แต่นั่นเป็น แค่ระเบิดลูกแรก เมื่อหลังจากนั้นมิโด้ดูเหมือนจะขาดความทุ่มเท แถมยังแสดงความไม่พอใจ อย่างชัดเจนเมื่อ ต้องเป็นตัวสำรอง ทำให้ถึงเขา จะทำประตูได้ เขาก็ยังถูกตำหนิจาก โรนัลด์ คูมัน กุนซือของอาแจกซ์ในตอนนั้น

และฟางเส้นสุดท้าย ก็มาขาดลง ในช่วงต้นปี 2003 เมื่อมิโด้ ทะเลาะกับสลาตัน จนถึงขั้นขว้างกรรไกร ใส่กองหน้าชาวสวีเดน ผลจากการวิวาทครั้งนั้น ทำให้เขาถูกลงโทษ ทางวินัยด้วย การถูกลดชั้น ลงไปเล่นในทีมสำรอง

ความเอือมระอา กับพฤติกรรม ที่นอกลู่นอกทางและไลฟ์สไตล์ แบบซูเปอร์สตาร์ ทำให้ในที่สุดอาแจกซ์ ก็หมดความอดทน ในเดือนนีนาคม 2003 เขาจึงถูกปล่อยตัว ไปให้ เซลต้า บีโก้ ยืมตัว ก่อนจะขายขาด

ให้แก่ โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยราคาสูงถึง 12ล้านยูโร ในฤดูกาล 2003-2004 และทำให้เขากลายเป็น นักเตะอียิปต์ที่มี ค่าตัวแพงที่สุดในตอนนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ อยู่กับทีมได้ไม่นาน เมื่อในอีกหนึ่งปีให้หลัง

มิโด้ถูกขายไปให้ โรม่าด้วยราคา ที่ต่ำกว่าครึ่ง นักเตะเซเนกัล และแทบไม่เข้าใกล้ กับคำว่าประสบความสำเร็จกับทีมใดเลย เพราะด้วยความหยิ่งทรนง และความมั่นใจที่ เกินกว่าเหตุ ไม่ให้เกียรติผู้อื่น ทำให้แม้จะเก่ง แต่ก็ไม่มีใครอยากได้

นักเตะตำนานอียิปต์
Ahmed Hossam MIDO – 20.01.2006 – Egypte / Libye – Coupe d’Afrique des Nations 2006

นักเตะตำนานอียิปต์ มิโด้นักเตะตำนานฟุตบอลอียิปต์ นักเตะจอมเกเรที่แม้แต่ในทีมชาติอียิปต์ก็ไม่ต้อนรับ

โดยหลังจากเป็นที่พูดถึง นักเตะทีมชาติอียิปต์ และมีประเด็นกับสโมสรต่างๆ ไปทั่วชีวิตการค้าแข้งของมิโด้ ก็เกือบจะหักพวงมาลัย พาชีวิตหนีจาก โค้งแห่งความพินาศ มาได้ตอนย้าย ไปเล่นให้กับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในฤดูกาล 2005-2006

หลังยิง 2ประตู ในนัดประเดิมสนาม ที่พบกับพอร์ทสมัธ และยิงไปถึง 11ประตูจาก 27นัดในซีซั่นต่อมา จนกลายเป็นขวัญใจ คนใหม่ในถิ่นไวท์ฮาร์ทเลน ทว่าการกลับไป เล่นให้ทีมชาติในศึก แอฟริกาคัพออฟเนชั่นส์ 2006

ที่อียิปต์เป็นเจ้าภาพ ในช่วงต้นปีนั้น กลับทำให้ภาพลักษณ์ของ จอมเกเรของมิโด้ ได้รับการตอกย้ำอีกครั้ง ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวมิโด้ ประเดิมสนามได้ อย่างยอดเยี่ยม หลังยิงประตูได้ทันทีตั้งแต่นัดแรก

ในเกมพบกับ ทีมชาติลิเบีย และมีส่วนช่วย ให้ทีมบ้านเกิดทะลุถึง รอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ แต่ในเกมรอบ รองชนะเลิศที่พบกับ เซเนกัล มิโด้กลับเล่นไม่ออก และถูก ฮัสซัน เชฮาตา กุนซือของทีม เปลี่ยนตัวออกจากสนาม

ด้วยความไม่พอใจ เขาจึงเข้าไปต่อว่า เชฮาตา อย่างหนัก ถึงขั้นเรียกโค้ชว่า ไอ้โง่ ตลกร้ายมากกว่าเดิมที่ คนที่เชฮาตา เปลี่ยนตัวลงไปแทน มิโด้กลายเป็นผู้ซัดประตูชัย พาอียิปต์เข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แถมยังไปไกลถึงการคว้าแชมป์ได้

กลับไปเป็นจอมเกเร จากการเล่นให้ทีมชาติอียิปต์ที่ส่งต่อจนถึงระดับสโมสร

ท่ามกลางความชื่นมื่น ของคนในประเทศอียิปต์ รายชื่อนักเตะ โมร็อกโก หลังจากคว้าแชมป์ แอฟริกาคัพออฟเนชั่นส์2006ได้ กลายเป็นมิโด้ ที่ต้องชอกช้ำ เขาถูกแบน จากทีมชาตินานถึง 6เดือน จากพฤติกรรม ในศึกชิงแชมป์ทวีป

แม้ว่าหลังจากนั้น เขาจะได้กลับมา ลงเล่นให้ทีมชาติ แต่เขาก็ไม่เคย ถูกเรียกใช้ในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ใหญ่ อย่างแอฟคอนอีกเลย นอกจากนี้เหตุการณ์ สุดอื้อฉาวครั้งนั้น ดูเหมือนจะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นระดับสโมสร

มิโด้เปลี่ยนเป็นคนละคน ในฤดูกาลต่อมา เขาทำได้เพียง แค่ประตูเดียว ตลอดการลงสนาม 12เกม ขณะเดียวกันเขายังไปพูดดูถูก โซล แคมป์เบลล์ อดีตตำนานของสเปอร์สว่าเป็น กองหลังที่ผ่านง่ายที่สุด

จน มาร์ติน โยล กุนซือของสเปอร์ส ในตอนนั้นโกรธในระดับควันออกหู เพราะในสีเสื้อของสเปอร์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ที่ทางมิโด้ จะมาวิจารญ์และพูดถึง ตำนานกองหลังของทีม ที่แฟนบอลสเปอร์รักแบบนั้นได้

มิโด้กลายเป็นแข้งพเนจร และราชาแห่งไคโรก็ไม่สามารถขึ้นไปยืนในระดับชั้นนำของ5ลีกใหญ่ยุโรปได้

หลังจากที่มิโด้ได้ ต่อว่าตัวของ โซล แคมป์เบลล์อย่างรุนแรง รายชื่อ ทีมชาติโมร็อกโก ท้ายที่สุดเขาก็ ถูกขายไปให้ มิดเดิลสโบรห์ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่ ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ โดยได้ลงสนามเพียงแค่ 25 นัดตลอด 2ฤดูกาล

ในถิ่นริเวอร์ไซด์ ก่อนจะร่วงตกชั้น ไปพร้อมกับทีมในซีซั่น 2008-2009  หลังจากนั้น มิโด้ก็กลายเป็น แข้งพเนจรอย่างสมบูรณ์ เขาถูกปล่อยให้ วีแกน แอธเลติก และ เวสต์แฮม ยืมตัวไปใช้งาน

รวมถึงได้กลับไปเล่น ให้กับสโมสรเก่าอย่าง ซามาเล็ค และ อาแจกซ์ ในช่วงสั้น ๆ ก่อนจะแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 30ปี โดยลงเล่นให้กับ บาร์นสลีย์ สโมสรในลีกรอง ของอังกฤษเป็นทีมสุดท้าย