นักฟุตบอลเยอรมัน กำแพงแห่งความไม่เท่าเทียม ทำไมทีมฟุตบอลฝั่งเยอรมันตะวันออกจึงเก่งไม่เท่าฝั่งตะวันตก?

นักฟุตบอลเยอรมัน 3 ตุลาคม 1990 คือวันประวัติศาสตร์ ของประเทศเยอรมัน เพราะเยอรมันตะวันตก และเยอรมันตะวันออก ที่ถูกแบ่งแยก ออกจากกัน ได้กลับมารวม เป็นหนึ่งอีกครั้ง และหากให้พูดถึง สิ่งที่เคยได้ถูก แบ่งแยกออกไป และได้กลับมารวมกัน เป็นหนึ่งอีกครั้ง ก็ต้องพูดถึง อาณาเขตของประเทศ, กรุงเบอร์ลิน, ธงชาติ, ครอบครัว

รวมไปถึงฟุตบอล ที่ได้เกิดเหตุการณ์ ลีกฟุตบอล ของทั้งสองชาตื ได้กลับมารวมด้วยกัน ซึ่งเป็นทีมจากเยอรมันตะวันตก และตะวันออก ที่พวกเขา สามารถลงเล่น ในลีกเดียวกันได้ในที่สุด สโมสรฟุตบอลหญิง

เวลาได้ผ่านไป 29 ปี แม้ฟุตบอลลีกเยอรมัน จะได้ถูกรวมเป็นหนึ่งแล้วนั้น แต่เราเองก็ยังได้เห็นแต่ ทีมจากฝั่งเยอรมันตะวันตก ที่ยังคงได้ครอง ความเป็นใหญ่ ในลีกบุนเดสลีกา ที่เป็นลีกฟุตบอล สูงสุดในเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นบาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ชาลเก้ 04 และอีกหลายทีม มากมายนับไม่ถ้วน

แต่ในทางด้านของทีม เยอรมันตะวันออก ส่วนใหญ่พวกเขา ก็ทำได้แค่วนเวียน อยู่ในศึกลีกา 2 และ ลีกา 3 อยู่เท่านั้น โดยที่พวกเขา ไม่มีโอกาสที่จะไป คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ แค่พกวเขาได้ จะขึ้นไปเล่นในบุนเดสลีกา นั้นก็นับว่า เป็นเรื่องยาก เต็มกลืนสำหรับพวกเขาแล้ว หากมองในมุมมอง ของสโมสรฟุตบอล จากภาคตะวันออก goal in th ดูบอลออนไลน์

ถึงพวกเขา จะอยู่ในลีกเดียวกัน แต่เพราะสาเหตุใด ทีมที่มาจาก ฝั่งตะวันออก จึงไม่สามารถ ไปยืนอยู่ในจุดเดียว กับที่ทีมฟุตบอลตะวันตกได้ ซึ่งในวันนี้ เราจะมาเจาะประเด็นต่างๆ เพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีทั้งปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

นักฟุตบอลเยอรมัน

เจาะประเด็นถึงความไม่เท่าเทียมของ นักฟุตบอลเยอรมัน ทำไมพวกเขาถึงต้อง แตกต่างกันได้เช่นนี้นะ?

ก่อนจะพูดถึงการแข่งขัน หลังจากปี 1990 ที่ทั้งสองชาติรวมเป็นหนึ่ง ต้องย้อนไปดู ความแตกต่าง ของวงการฟุตบอล ระหว่างทั้งสองชาติ ที่แตกต่างกันไป ตามสภาพแวดล้อม ของทั้งสองประเทศ

เยอรมันตะวันตก ถูกปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม หรือที่เรารู้จักในชื่อทุนนิยม ตามพี่ใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา แม้ว่าประเทศจะเสียหาย จากพิษสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เม็ดเงินที่หลั่งไหล อยู่ในประเทศเยอรมันตะวันตก ผ่านการอัดฉีดของสหรัฐอเมริกา ช่วยพัฒนากีฬาฟุตบอลในทางตรงและทางอ้อม

หลังจากชนะฟุตบอลโลก 1954 ชาวเยอรมันล้วนเชื่อว่า พวกเขาสามารถ ก้าวขึ้นเป็นใหญ่ ในโลกฟุตบอล ได้อย่างแน่นอน ประธานสโมสรต่างๆ ในเยอรมัน หันมาร่วมมือกัน สร้างลีกฟุตบอล บุนเดสลีกาขึ้นมา โดยเชื่อว่าจะเป็นหนทางสำคัญ ที่ทำให้ฟุตบอลเยอรมัน พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

แต่หากลองปีน ข้ามกำแพงเบอร์ลิน เพื่อดูความเป็นไป ของวงการลูกหนังฝั่งตะวันออก มีความแตกต่าง กับฝั่งตะวันตกอยู่มาก ซึ่งเป็นภาพสะท้อน จากระบอบการปกครอง และเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน

เยอรมันตะวันออก ปกครองด้วย ระบอบคอมมิวนิสต์ หรืออันที่จริงคือ เผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งรวบรวม ทรัพยากรทั้งหมด ไว้ในมือของรัฐ ขณะที่ประชาชนต้องใช้ชีวิต อย่างตามมีตามเกิด

สภาพเศรษฐกิจ ที่ย่ำแย่ของฝั่งตะวันออก รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมือง ทำให้ประชาชน ไม่มีจิตใจที่ดีกับการรับชม หรือเล่นกีฬา ซึ่งพื้นฐาน เป็นความบันเทิงเพื่อหาความสุข ในเมื่อชีวิตประจำวัน ต้องหาเช้ากินค่ำ หลายคนยอมเสี่ยงตาย หนีออกนอกประเทศ

ในขณะที่สโมสรฟุตบอล ของฝั่งตะวันตก มีงบประมาณเพียงพอ ในการบริหารทีม สโมสรฝั่งตะวันออก กลับต้องเจอปัญหา เรื่องทุนทรัพย์ เพราะงบประมาณแทบทั้งหมดของประเทศ อยู่ในมือของรัฐ สโมสรฟุตบอล ที่ก่อตั้งด้วยประชาชน ต้องเจอปัญหายุบทีมทิ้ง อยู่บ่อยครั้ง จนขาดความต่อเนื่อง ในการพัฒนา

ในขณะที่ทีมยักษ์ใหญ่ ของเยอรมันตะวันออก ส่วนใหญ่เป็นทีมที่ได้รับ การสนับสนุนเป็นพิเศษจากรัฐ เช่น ดินาโม เดรสเดน หรือ ดินาโม เบอร์ลิน ซึ่งมีข่าวลือว่า ทีมของภาครัฐเหล่านี้ มักได้รับการตัดสิน ที่เอื้อประโยชน์จาก กรรมการอยู่บ่อยครั้ง

นักฟุตบอลเยอรมัน

แม้กำแพงเบอร์ลินจะพังลง แต่กำแพงความไม่เท่าเทียมยังอยู่ และความดิ้นรนของทีมฟุตบอลเยอรมันตะวันออก

นับตั้งแต่รวมลีกกัน อย่างเป็นทางการ ผ่านมา 29 ฤดูกาล มีเพียงแค่ 6 ทีมเท่านั้น จากฝั่งเยอรมันตะวันออก ที่เคยเล่นในบุนเดสลีกา คือ ฮันซา รอสต็อค, ดินาโม เดรสเดน, โลโคโมทีฟ ไลป์ซิก, เอเนอร์จี คอตบุส, แอร์เบ ไลป์ซิก และ อูนิโอน เบอร์ลิน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่เคยมีทีมไหน ได้สัมผัสถาดแชมป์บุนเดสลีกา

ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด คงจะเป็นช่วงปี 2009-2016 กว่า 7 ฤดูกาลติดต่อกัน ที่ไม่มีทีมจากฝั่ง เยอรมันตะวันออก เล่นในลีกสูงสุด แม้แต่ทีมเดียว ดูเหมือนเวลายิ่งผ่านไป ช่องว่างระหว่างทีมจากเยอรมันตะวันตก และตะวันออกยิ่งหนีห่างกันไปเรื่อยๆ จริงอยู่ว่า จุดเริ่มต้นของทีมฝั่งตะวันออก ในบุนเดสลีกา ถือว่ายากลำบากอย่างมาก แต่หากพวกเขา มีการบริการจัดการที่ดี คงสามารถขึ้นมาผงาด ในลีกสูงสุดได้เร็ววัน น่าเสียดายที่เรื่องแบบนั้น ไม่เคยเกิดขึ้น

ช่วงเวลาที่มืดหม่นของคอลูกหนัง ฝั่งเยอรมันตะวันออก ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนกระทั่งในปี 2016 พวกเขาเหมือนจะมีความหวังอีกครั้ง กับการก้าวขึ้นมาของสโมสร แอร์เบ ไลป์ซิก

อย่างไรก็ตาม สโมสรความหวังใหม่ของชาวเยอรมันตะวันออก กลับถูกต่อต้านโดยหลายฝ่าย ในวงการฟุตบอลเยอรมัน โดยเฉพาะในแง่ที่สโมสร แอร์เบ ไลป์ซิก เป็นสโมสรที่ถูกถือครองโดยบริษัท เรดบูล บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ของประเทศออสเตรีย

ข้อหาทำทีมฟุตบอลเพื่อโปรโมตแบรนด์, ทำทีมฟุตบอลโดยอาศัยช่องว่างของกฎ 50+1 ในลีกฟุตบอลเยอรมัน (กฎที่แฟนบอลต้องถือหุ้นของสโมสรอย่างน้อย 51 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงไม่ใช่ทีมที่มีประวัติศาสตร์ดั้งเดิม ร่วมกับวงการฟุตบอลเยอรมันตะวันออก ทำให้หลายฝ่ายมองว่า แอร์เบ ไลป์ซิก ไม่ใช่ความหวังใหม่ที่แท้จริง ของวงการฟุตบอลเยอรมันตะวันออก

ขณะเดียวกัน ทีมดั้งเดิมของฟุตบอลเยอรมันตะวันออก หมดสิ้นถึงยุคสมัยอันเรืองรอง การเล่นลีกสูงสุดคือความยากลำบาก ลีกา 2 ลงไปคือที่พวกเขา ไม่ใช่บุนเดสลีกา

สิ่งเดียวที่สโมสรฟุตบอลเยอรมันตะวันออกทำได้ คือการมองดูทีมจากฝั่งตะวันตก ยกถาดแชมป์บุนเดสลีการฉลองครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ภาพของความฝันนี้ ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นกับทีมอย่าง ดินาโม เดรสเดน, ฮันซา รอสต็อค, โลโคโมทีฟ ไลป์ซิก, ดินาโม เบอร์ลิน หรือกระทั่ง อูนิโอน เบอร์ลิน ที่เล่นอยู่ในลีกสูงสุดตอนนี้ก็ตาม

ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทาง >> @vvip123 <<   หากมีเรื่องสัย หรือต้องการได้ข่าวอะไรเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที รับประกันข่าวสาวใหม่ๆ ที่เราอัพเดตกันทุกวันแน่นอน