ฌิมี่ ตราโอเร่ กองหลังสายฮาของลิเวอร์พูล หนึ่งในกองหลังชุดคว้าแชมป์ยุโรป2005

ฌิมี่ ตราโอเร่ กองหลังสายฮาของลิเวอร์พูล นี้คืออดีตกองหลัง ของลิเวอร์พูลชุดอิสตันบูล เขาเป็นนักเตะกองหลัง ที่คว้าถ้วย แชมป์เมเจอร์ลีก ลีกสูงสุดของการแข่งขัน ฟุตบอลระดับสโมสรของอเมริกา

นี้คือนักเตะที่เป็นสายฮา และถูกจดจำจากแฟนลิเวอร์พูล ว่าเป็นกองหลังที่มี ความเฟอะฟะ ใสตำแหน่งกองหลังของลิเวอร์พูล ตำนานลิเวอร์พูล ในประวัติศาสตร์ คนหนึ่งของสโมสร เพราะเขามักทำเข้าประตูตัวเอง

โดยเขาได้สร้าง ซีนประวัติศาสตร์ให้กับ ตัวเองโดยการทำ ซีดานเทิร์นเข้า ประตูของตัวเอง เขาเป็นนักเตะจอมเฟอะฟะ ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง เลยก็ว่าได้ จากการคว้าแชมป์ได้ จำนวนมากมายจาก สโมสรที่เขาไปค้าแข้ง

เพราะฌิมี่ ตราโอเรคือนักเตะ ที่แฟนบอลลิเวอร์ในช่วงยุค 2000ต้องรู้จักแน่นอน โดยย้อนกลับไปในช่วงต้นยุค 2000ลิเวอร์พูล กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก จากการร้างรา ความสำเร็จในรายการใหญ่มายาวนาน อนิเมะ

แม้ในปี2001 พวกเขาจะได้ 5แชมป์ มาครอง แต่นักเตะชุดนั้น ก็ได้ทยอยจากทีม ไปที่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหวังสูงสุดของทีมอย่าง เจ้าหนูเบบี้โกล์อย่าง ไมเคิล โอเว่น ในปี2004 ที่ควรจะเป็นอนาคตของสโมสร

ก็เลือกจะย้ายทีมออกไป การไม่ได้แชมป์ ทำให้หงส์แดง มีปัญหาเรื่อง การดึงดูดนักเตะ หลุยส์ การ์เซีย ระดับแถวหน้า นักเตะระดับ A คลาส หลายคน มักจะมีข่าวลือ ร่วมกับลิเวอร์พูลมาเสมอ แต่เอาเข้าจริง หงส์แดง

ก็ไม่ได้สร้างดีล อะไรที่ฮือฮาได้เลย พวกเขาต้องอาศัย เทคนิคการดึง เอานักเตะเกรดรองๆ หรือที่ยังไม่ดัง มาปั้นอีกทีหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็คือฌิมี่ ตราโอเร่นักเตะ ตำแหน่งกองหลัง สัญชาติมาลี

ที่เกิดและโต ในประเทศฝรั่งเศส อยู่ในทีมเล็กๆ อย่าง ลาวาล ไม่ได้อยู่แม้ กระทั่งลีกสูงสุด ของฝรั่งเศส ผ่านการลงเล่น เกมอาชีพ เพียงแค่ 5เกม ดีกรีแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ตราโอเร่เป็นนักเตะ ที่ได้รับความคาดหวังน้อยมาก

หากเทียบกับเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกัน ที่ย้ายเข้ามาอย่าง อองโทนี่ เลอ ตัลเล็ค, บรูโน่ เชย์รู และ อิกอร์ บิสคาน ที่ต่างคนก็มี ดีกรีติดตัวมา แบบสวยๆ กันทั้งนั้น เขาไม่ได้ มีชื่อเสียงในเรื่องของฝีเท้ามาก่อน

ฌิมี่ ตราโอเร่ กองหลังสายฮาของลิเวอร์พูล กับการย้ายไปอยู่สโมสรลิเวอร์พูล

หลังจากย้ายไปลิเวอร์พูล ตราโอเล่คงคิดว่า นี้เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง และเขาจะสามารถสร้างชื่อกับ ทางลิเวอร์พูลได้แน่นอน แต่ความจริงกับ ไม่ใช่แบบนั้น เขาแทบไม่ได้ลงสนาม เป็นตัวจริงเลยด้วยซ้ำ

โดยตราโอเร่เมื่อ มาถึงลิเวอร์พูลในปี 1999 มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะคนที่ซื้อตัว เขามาอย่าง เชราร์ อุลลิเยร์ กลับไม่ได้มองเห็น ความสามารถ และให้โอกาส เขาลงสนาม มากมายนัก เกือบ 4ปี

ในการเป็นลูกน้อง ของอุลลิเยร์ ตราโอเร่ยังบอกเองด้วยซ้ำว่า เขารู้สึกว่า กำลังเสียเวลาเปล่า และไม่เคยถูกมองเห็นค่า ในความพยายามเลย ตั้งแต่ปี 1998จนถึง ปี2002 โดยรวมแล้ว เขาได้โอกาสลงสนาม ในเกมลีกแค่ 8นัดเท่านั้น คาร์ลอส-ไกเซอร์

หากเป็นแฟนบอล ที่เกิดยุคนั้น ก็คงจำกัดความได้ดี เกี่ยวกับการเล่น ของตราโอเร่ ที่สรุปใจความสั้นๆ ง่ายๆ ได้แค่ว่า เขาเข้าบอลแบบ โฉ่งฉ่างมาก อย่างไม่ต้องสงสัย การเข้าบอลที่วืดวาดจั่วลม จนเตะคู่แข่งเสียฟาวล์

การประกบตัว และความเข้าใจเกม เรียกได้ว่าออร่าของ การเป็นยอดกองหลัง แทบไม่ปรากฏเลย  ผ่านมาแล้ว 5ปี ในฤดูกาล 2003-2004 แม้จะได้ลงเยอะขึ้นแล้ว แต่ส่วนใหญ่ตราโอเร่ ก็ยังมีช็อตพลาด ให้ได้จดจำอยู่เสมอ

แฟนบอลลิเวอร์พูล ส่วนใหญ่แทบ ไม่คาดหวังอะไรจาก เขามากไปกว่า การเป็นอะไหล่ คอยสแตนด์บาย เวลาทีมขาดแคลน นักเตะตัวหลัก จนกระทั่ง ในปีต่อมาตราโอเร่ ก็ได้ทำใน สิ่งที่แฟนบอลทุกคน หมดหวังกับเขา อย่างแท้จริง

ฌิมี่ ตราโอเร่

ฌิมี่ ตราโอเร่ กองหลังสายฮาของลิเวอร์พูล ซีนตำนานในการทำเข้าประตูตัวเองที่สวยงามมากที่สุด

หากพูดถึงเรื่องนี้ เชื่อว่าแฟนลิเวอร์พูล จะต้องจำได้อย่างแน่นอน กับช็อตของตราโอเร่นี้ ที่กลายเป็น ช็อตประวัติศาสตร์ ที่แฟนบอลหลายคน อาจจะเคยเห็นมาก่อน กับการทำซีดารเทิร์น เข้าประตูตัวเองแบบสวยงาม

ที่ในประวัติศาสตร์นี้ ไม่มีใครยิงได้ อย่างแน่นอน โดยเหตุการนี้เริ่มต้นจาก ฤดูกาล 2004-2005 ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือของ บาเลนเซีย ที่พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา ถูก ลิเวอร์พูลติดต่อให้มาคุมทัพ UFABET

แทนที่อุลลิเยร์ ที่โดนปลด ออกจากตำแหน่งไป การเข้ามาของ ยอดกุนซือ ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ที่แอนฟิลด์ หนึ่งในสิ่งที่ ทุกคนจำได้ดีที่สุด คือเรื่องของ การโรเตชั่นนักเตะ หรือการหมุนเวียนนักเตะในทีม

สำหรับลงเล่น เพื่อรักษาความสด ตลอดการแข่งขันทั้งปี หากไม่นับนักเตะอย่าง ซามี่ ฮูเปีย, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ชาบี อลอนโซ่ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แทบไม่มีนักเตะ คนไหนการันตี 11 ตัวจริงได้เลย

และนั่นเป็นข่าวดี สำหรับนักเตะ สายอะไหล่อย่างตราโอเร่ ที่ได้รับโอกาสมากขึ้น แบบไม่เคยเป็นมาก่อน เขาลงเล่นในลีกทั้งหมด 26 นัด เป็นตัวจริงถึง 18 เกม และ ภาพประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2005

ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พบกับ เบิร์นลี่ย์ นี้คือจุดเริ่มต้นและ การกลายเป็นนักเตะสายฮา ที่เขากลายเป็นนักเตะ ที่ควรจะถูกจดจำ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแข้งลิเวอร์พูล จากการได้ลงสนามบ่อยขึ้นแต่ กับไม่ใช่

จังหวะซีดานเทิร์นในตอนนั้น ที่กลายเป็นลูกยิงทำเข้าประตูตัวเองที่สวยที่สุด

จังหวะตำนานนี้ เกิดขึ้นตอนที่ ปีกซ้ายของ เบิร์นลี่ย์ ลากบอลลุย มาสุดเส้นหลัง ก่อนจะเปิดเรียดเข้ามาตรงกรอบ 6 หลา ไม่มีผู้เล่นของ เบิร์นลี่ย์ สักคน มีเพียงตราโอเร่ ที่เข้ามาถึงบอล เป็นคนแรกและคนเดียวในตอนนั้น

ตามสัญชาตญาณกองหลัง จังหวะนั้นอย่างไรเสียก็ต้องเคลียร์ เพราะในระยะกรอบ 6 หลา หากพลาดคือการโดนอีกฝั่งลงโทษอย่างแน่นอน แต่ ตราโอเร่ ไม่ทำแบบนั้น เขาเลือกใช้ท่าซีดานเทิร์น

มันควรจะง่ายดาย ปานปลอกกล้วย เข้าปาก ถ้าเขาเตะออกไป หรืออย่างน้อยๆ มันคงเท่มากๆ หาก ตราโอเร่พลิกบอลกลับมา และทำให้ทีมเป็นฝ่ายรุกได้ ทว่าที่สุดแล้ว บอลกระดอนหรือเขาจับบอลไม่ดี

ไม่ว่าจะด้วย เหตุผลอะไรก็ตาม ตราโอเร่ทำบอลลั่น เข้าประตูตัวเองไป อย่างสุดงง ชนิดที่ว่าตัวของเขา ยังทำหน้าเขินๆ ไม่รู้จะโทษใครดีเลยทีเดียว นั่นช็อตประวัติศาสตร์ที่ทำให้เขา โดนด่าจากผู้จัดการ รวมถึงแฟนบอลทั่วโลก

หลังจากการยิงเข้าประตูตัวเอง ไปแบบสุดสวยตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ในช่วงเวลานั้น แฟนบอลบางคนโกรธ ที่เขาทำแบบนั้น แต่แฟนบอลลิเวอร์พูล บางคนก็โกรธ ตราโอเร่ไม่ลง เพราะมันคือ การยิงเข้าประตูตัวเอง สุดคลาสสิกที่ แทบไม่เคยมีใคร ทำให้เห็น ถ้าไม่พลาดจริง ทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน

หลังเกมนั้นจบลง ผลแพ้ชนะไม่ได้ สำคัญอะไรมากไปกว่า การพูดถึงลูกยิง เข้าโกลตัวเองของตราโอเร่ ที่ทั่วโลกต่างพูดถึง ตัวของเขาเอง ก็โดนด่ายับจากเบนิเตซ ที่ไม่พอใจกับ การเล่นลูกที่ไม่ควรเล่นเช่นนี้